เมื่อวันที่ 19 มีนาคม สถานีบริการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเขตอี้หลานได้จัดหลักสูตรการศึกษาครอบครัว โดยเชิญ ติง เค่อชิง ผู้อยู่อาศัยใหม่จากมณฑลกุ้ยโจว เขตปกครองตนเองชนเผ่าเหมียวและต้ง มาเป็นวิทยากรวัฒนธรรมหลากหลาย เพื่อแนะนำให้ผู้เข้าร่วมจากหลากหลายประเทศรู้จักกับชุดประจำเผ่าเหมียวในกุ้ยโจว และแบ่งปันขนมปังอบเมืองฉวีโจวจากมณฑลเจ้อเจียงที่เธอทำเอง ทำให้ผู้เข้าร่วมได้สัมผัสเสน่ห์ของวัฒนธรรมที่หลากหลาย
ติง เค่อชิง ย้ายมาไต้หวันในปี 2011 เนื่องจากการแต่งงาน ปัจจุบันอาศัยอยู่ที่เจียวซี อี้หลาน กับสามีและลูกสองคน อดีตเธอเคยเป็นไกด์นำเที่ยวในเจ้อเจียง และชื่นชอบการแนะนำให้ลูกทัวร์ลองชิมขนมปังอบเมืองฉวีโจว หลังย้ายมาไต้หวัน เธอไม่สามารถทำงานเป็นไกด์ได้เนื่องจากภาระครอบครัว จึงตัดสินใจเริ่มต้นธุรกิจของตัวเอง หลังพบว่าขนมปังอบเมืองฉวีโจวหาทานได้ยากในไต้หวัน เธอจึงกลับไปเจ้อเจียงเพื่อฝึกฝนการทำขนม โดยใช้เวลาเรียนรู้ 2 เดือนและฝึกฝนเป็นเวลา 6 เดือน จนเชี่ยวชาญเทคนิคพิเศษ และในปี 2022 เธอได้เปิดร้านขนมปังอบเมืองฉวีโจวแห่งแรกในไต้หวัน
เมื่อนึกถึงช่วงที่ฝึกฝน ติง เค่อชิง เล่าว่าช่วงเวลาที่ลืมไม่ลงคือเมื่อครั้งแรกที่สอดมือเข้าไปในเตาอบที่ร้อนถึง 300 องศาเซลเซียสแล้วโดนลวก แต่ด้วยความพยายามไม่ย่อท้อ เธอจึงสามารถพัฒนาสูตรขนมปังที่มีรสชาติในอุดมคติของเธอได้ ทำให้ชาวไต้หวันได้ลิ้มลองรสชาติแท้ๆ ของอาหารเจ้อเจียงแท้ๆ
นอกจากอาหารแล้ว ติง เค่อชิง ยังแนะนำชุดประจำเผ่าเหมียว โดยอธิบายว่าชุดเหล่านี้มักใช้ในโอกาสสำคัญ เช่น การต้อนรับแขกและงานแต่งงาน ทำจากผ้าฝ้ายและผ้าลินินทอมือ ประดับด้วยลายปักสีสันสดใสและเครื่องประดับเงินสุดหรู เธอยังได้นำชุดสีแดงที่มีอุปกรณ์เสริมอันงดงามมาแสดงให้ชม ซึ่งสื่อถึงความสง่างามและมีศักดิ์ศรีของสตรีเผ่าเหมียว นอกจากนี้ เธอยังนำชุดชาวฮั่นที่ออกแบบโดยเพื่อนจากจีนมาให้ผู้ร่วมกิจกรรมได้สัมผัสเสน่ห์ของวัฒนธรรมการแต่งกายที่แตกต่างกันด้วยติง เค่อชิง อธิบายว่าชุดชนเผ่าเหมียวส่วนใหญ่สวมใส่ในโอกาสสำคัญ เช่น การต้อนรับแขกและพิธีแต่งงาน โดยทำจากผ้าฝ้ายและผ้าลินินทอมือ ตกแต่งด้วยลายปักเหมียวสีสันสดใสและเครื่องเงินสุดหรู (ภาพ / จากเว็บไซต์สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง)
สถานีบริการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเขตอี้หลานกล่าวขอบคุณ ติง เค่อชิง สำหรับการแบ่งปันที่ยอดเยี่ยม และสนับสนุนให้ผู้อยู่อาศัยใหม่เข้าร่วมในกิจกรรมแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมมากขึ้น นอกจากนี้ สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองยังได้จัดทำ "เครือข่ายข้อมูลพัฒนาศักยภาพผู้อพยพใหม่" ที่ให้บริการ 7 ภาษา รวมทั้งบัญชีทางการ Line เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับการจ้างงาน การศึกษา และสุขภาพ