按下ENTER到主內容區
:::
ข่าวล่าสุด 最新消息icon
:::

หาวบ่อยอาจเป็นสัญญาณเตือนสุขภาพ และอาจเกี่ยวข้องกับโรคร้าย 3 ประการ

การหาวเป็นปฏิกิริยาทางร่างกายที่ปกติอย่างมาก (ภาพจาก Heho Health)
การหาวเป็นปฏิกิริยาทางร่างกายที่ปกติอย่างมาก (ภาพจาก Heho Health)

การหาวเป็นปฏิกิริยาทางสรีรวิทยาปกติ นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าการหาวช่วยให้หายใจลึกขึ้น เพิ่มระดับออกซิเจนในเลือด และกระตุ้นการทำงานของสมอง อย่างไรก็ตาม หากมีอาการหาวบ่อยครั้ง แม้แต่ 5-6 ครั้งภายในระยะเวลาสั้นๆ อาจไม่ใช่แค่สัญญาณของความเหนื่อยล้าเท่านั้น แต่อาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคบางชนิดสัญญาณเตือนโรคร้าย 3 ชนิด ที่ทำให้หาวบ่อย (ภาพจาก Heho Health)

การหาวบ่อยอาจเป็นสัญญาณของโรคร้ายแรง 3 ประเภท

แพทย์หู คอ จมูก ดร.ลวี่ อี้ซิง จากโรงพยาบาลแมคเคย์กล่าวว่า ผู้ที่มีเนื้อเยื่อช่องปากหรือต่อมทอนซิลโตมักจะหาวบ่อย นอกจากนี้ผู้ที่มีภาวะหัวใจ ตับ หรือไตทำงานผิดปกติ รวมถึงผู้ที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับก็อาจพบอาการนี้ได้เช่นกัน นอกจากนี้ ผู้ป่วยโรคพาร์กินสันหรือโรคหลอดเลือดสมอง อาจมีอาการนี้เนื่องจากความผิดปกติของการประสานงานของสมองและร่างกาย หากคุณมีอาการหาวบ่อยควรระวัง 3 ความเสี่ยงต่อสุขภาพดังต่อไปนี้

โรคหัวใจและหลอดเลือด

หัวใจทำหน้าที่ส่งเลือดไปเลี้ยงทั่วร่างกายและสมอง หากมีโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ หรือโรคลิ้นหัวใจ อาจส่งผลต่อระบบไหลเวียนเลือด ทำให้สมองขาดออกซิเจนและทำให้หาวบ่อย ผู้ที่มีประวัติโรคหัวใจควรระมัดระวังหากมีอาการหาวบ่อย เพราะอาจเป็นสัญญาณของภาวะหัวใจล้มเหลว หากมีอาการแน่นหน้าอก ปวดหลัง อ่อนเพลีย หรือเหงื่อออกเย็นร่วมกับการหาว ควรรีบพบแพทย์ทันที

โรคเกี่ยวกับกระดูกต้นคอ

กระดูกต้นคอเป็นโครงสร้างสำคัญที่เชื่อมต่อสมองและร่างกาย มีหน้าที่สำคัญในการนำสัญญาณประสาทและเลือด หากมีการเสื่อมหรือกระดูกสันหลังตีบ อาจกดทับเส้นเลือดและเส้นประสาท ทำให้สมองได้รับเลือดไม่เพียงพอ และทำให้เกิดอาการหาวบ่อยผู้ที่มีเนื้อเยื่อในช่องปากและต่อมทอนซิลโต มักหาวบ่อยกว่าปกติ (ภาพจาก Heho Health)

โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke)

จากการสังเกตทางคลินิก พบว่า 60% ถึง 80% ของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง มักจะมีอาการหาวบ่อย 5 ถึง 10 วันก่อนเกิดโรค นี่เป็นผลมาจากการไหลเวียนของเลือดช้าลงเนื่องจากภาวะความดันโลหิตสูงหรือหลอดเลือดแดงแข็งตัว เมื่อสมองอยู่ในสภาวะขาดออกซิเจนเรื้อรัง ร่างกายจะชดเชยโดยการหาวเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต

ข่าวเด่นประเด็นร้อน

回到頁首icon
Loading