นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า จากอิทธิพลพายุ“ซินลากู (SINLAKU)”ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.เป็นต้นมา ส่งผลให้ในหลายพื้นที่ของประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากเกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก ดินสไลด์ ในพื้นที่ 10 จังหวัด (จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ น่าน พะเยา ลำปาง อุตรดิตถ์ เลย หนองบัวลำภู อุดรธาน และจังหวัดนครพนม ) รวม 23 อำเภอ 46 ตำบล 130 หมู่บ้าน มีประชาชนที่ได้รับผลกระทบ 1,399 ครัวเรือน โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดเลยได้รับผลกระทบมากที่สุดถึง 3 อำเภอ 6 ตำบล 28 หมู่บ้าน รวม 680 ครัวเรือน พื้นที่ได้รับความเสียหายประมาณ 200 ไร่ เส้นทางการสัญจรทางถูกตัดขาด โดยพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มอบหมายให้ทุกส่วนราชการลงพื้นที่ติดตามให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ ล่าสุดภาพรวมสถานการณ์ทั่วประเทศเริ่มคลี่คลายปริมาณน้ำลดลงแล้ว ทั้งนี้กระทรวงมหาดไทย มีแผนป้องกันเผชิญเหตุที่ทุกหน่วยงานในสังกัดปฏิบัติภารกิจตามขั้นตอน ตั้งแต่การแจ้งข่าว การเตือนภัย ให้ประชาชนได้รับทราบทุกระยะเพื่อเตรียมตัวรับสถานการณ์ได้ทันท่วงที การเข้าไปให้ความช่วยเหลือประชาชนต้องมีชีวิตอยู่อย่างปลอดภัย โดยเฉพาะการตัดกระแสไฟฟ้า ไม่ทำให้เกิดความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาย ขณะเดียวกันกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย หรือ ปภ. ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานทั้งตำรวจ ทหาร อาสาสมัคร และมูลนิธิเข้าไปช่วยเหลือประชาชนพร้อมสำรวจความเสียหายหลังน้ำลด โดยนำรถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย เรือท้องแบน รถไฟฟ้าสำรองส่องสว่าง นำเครื่องจักรอุปกรณ์ในการซ่อมแซมเส้นทางที่ถูกตัดขาดให้ประชาชนสามารถสัญจรผ่านได้ ผู้ประสบภัยสามารถแจ้งได้ที่สายด่วนนิรภัย 1784
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยด้วยว่า แม้ขณะนี้ในหลายพื้นที่สถานการณ์จะเริ่มคลี่คลาย แต่ยังต้องเฝ้าระวังในหลายจังหวัดยังมีฝนฟ้าคะนองไปจนถึงวันนี้ (4 ส.ค. ) หลังจากกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศฉบับล่าสุดเมื่อวันที่ 2 ส.ค.ที่ผ่านมา เตือนประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ของไทย ยังต้องติดตามประกาศของกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในพื้นที่ทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีคลื่นลมแรง ปภ. ได้ออกประกาศเตรียมความพร้อมและกำชับเจ้าหน้าที่ดูแลประชาชนอย่างใกล้ชิดในทุกจังหวัดรวมถึงมาตรการให้ความช่วยเหลือเยียวยาประชาชน ซึ่งในแต่ละจังหวัดได้จัดสรรงบประมาณกรณีประกาศเป็นเขตประสบภัยหากงบประมาณไม่เพียงพอสามารถขอขยายวงเงินในการให้ความช่วยเหลือได้
ข้อมูลข่าวจาก กรมประชาสัมพันธ์