หลังช่วงหยุดยาวเทศกาลตรุษจีน ประชาชนชาวฮากกาในบางพื้นที่จะเริ่มประเพณีการไหว้บรรพบุรุษของพวกเขา ในเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ มีรายงานเหตุไฟไหม้หญ้าในสุสานหลายแห่งในพื้นที่เถาหยวน, ซินจู๋ และเหมียวลี่ เมื่อช่วงพีคของการไหว้บรรพบุรุษในเดือนมีนาคมและเมษายนใกล้เข้ามา ความเสี่ยงต่อการเกิดไฟไหม้ก็เพิ่มสูงขึ้น
ตามสถิติของสำนักงานดับเพลิงแห่งชาติ ช่วง 2 สัปดาห์ก่อนเทศกาลเชงเม้งในปี 2565 ทั่วประเทศมีเหตุไฟไหม้หญ้าในสุสานเกิดขึ้น 735 ครั้ง และในปี 2566 ตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นเป็น 1,310 ครั้ง เมื่อขยายระยะเวลาเก็บสถิติรวมตั้งแต่เทศกาลตรุษจีนจนถึงเทศกาลเชงเม้ง (ประมาณ 2 เดือน) ในปี 2567 มีจำนวนเหตุเพลิงไหม้รวม 3,623 ครั้ง ซึ่งในจำนวนนี้มี 2,158 ครั้ง เกี่ยวข้องกับการเผาหญ้าโดยประชาชน ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงทำงานอย่างหนักเมื่อช่วงพีคของการไหว้บรรพบุรุษในเดือนมีนาคมและเมษายนใกล้เข้ามา ความเสี่ยงต่อการเกิดไฟไหม้ก็เพิ่มสูงขึ้น (ภาพ/อ้างอิงจากเว็บไซต์กระทรวงมหาดไทย)
เพื่อป้องกันการเกิดไฟไหม้ กระทรวงมหาดไทยได้ออก "แผนเตรียมความพร้อมความปลอดภัยจากอัคคีภัยช่วงเทศกาลเชงเม้ง 2567" เมื่อเดือนธันวาคม 2566 และร่วมมือกับกระทรวงสิ่งแวดล้อมในการดำเนินมาตรการต่างๆ โดยกระทรวงสิ่งแวดล้อมสนับสนุนการเซ่นไหว้แบบเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น "ใช้ดอกไม้แทนธูป" และ "ทำความดีแทนการเผากระดาษเงินกระดาษทอง" หรือใช้บริการเผากระดาษเงินกระดาษทองแบบรวมศูนย์ของสำนักงานสิ่งแวดล้อมในแต่ละเขตเพื่อช่วยลดมลพิษทางอากาศ
สำนักงานดับเพลิงแห่งชาติยังเน้นย้ำแนวคิด "ไหว้เชงเม้งไม่ใช้ไฟ" ได้แก่:
- ไม่ เผาหญ้า
- ไม่ เผากระดาษเงินกระดาษทอง
- ไม่ จุดประทัด
- ไม่ ทิ้งก้นบุหรี่ลงบนพื้น
- ควร เก็บขยะกลับไปทิ้งให้เรียบร้อย
นอกจากนี้ หน่วยดับเพลิงในพื้นที่ต่างๆ จะส่งรถดับเพลิงประจำการในสุสานสำคัญ และใช้โดรนขยายพื้นที่เฝ้าระวังเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากไฟไหม้หน่วยดับเพลิงในพื้นที่ต่างๆ จะส่งรถดับเพลิงประจำการในสุสานสำคัญ และใช้โดรนขยายพื้นที่เฝ้าระวังเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากไฟไหม้ (ภาพ/อ้างอิงจากเว็บไซต์กระทรวงมหาดไทย)
สำนักงานดับเพลิงแห่งชาติเตือนว่า การเผาหญ้าโดยไม่ได้รับอนุญาต อาจละเมิด มาตรา 14 ของกฎหมายป้องกันอัคคีภัย โดยมีโทษปรับสูงสุด 3,000 ดอลลาร์ไต้หวัน หากทำให้เกิดมลพิษทางอากาศ อาจถูกปรับตาม มาตรา 32 และ 67 ของกฎหมายควบคุมมลพิษทางอากาศ ตั้งแต่ 1,200 ถึง 100,000 ดอลลาร์ไต้หวัน หากร้ายแรง อาจเข้าข่ายความผิดฐานวางเพลิงและต้องรับโทษทางอาญา
ประชาชนควรปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านความปลอดภัยจากอัคคีภัยระหว่างการไหว้บรรพบุรุษ เพื่อหลีกเลี่ยงการกระทำผิดกฎหมายและช่วยกันรักษาความปลอดภัยสาธารณะ