ตามข้อมูลจาก “เดลินิวส์ออนไลน์” ภาพยนตร์ “ธี่หยด” เป็นการจับมือกันของ 2 ค่ายยักษ์ใหญ่ระหว่าง เมเจอร์ จอยน์ ฟิล์ม และ บีอีซีเวิลด์ (ช่อง 3) เป็นครั้งแรกที่ลงจอภาพยนตร์ IMAX โดยหนังจะมีความยาวถึง 2 ชม.เต็มๆ ภาพยนต์ “ธี่หยด” กำกับโดย คุ้ย-ทวีวัฒน์ วันทา ผู้กำกับชื่อดังจากหนังคัลท์อย่าง “ขุนกระบี่ ผีระบาด”, “อสุจ๊าก” และ “ทองสุก 13” “ธี่หยด” ดัดแปลงมาจากนวนิยาย “…ธี่หยด… แว่วเสียงครวญคลั่ง…” ของ กฤตานนท์ ผู้เป็นบุตรชายเจ้าของเรื่องราว ดังนั้น เรื่องนี้มีเค้าโครงที่เป็นเรื่องจริง จากคุณ กฤตานนท์ โดยตัวเรื่องถูกนำมาเผยแพร่ทางเว็บไซต์พันทิป จากนั้นก็มีการเล่าเรื่องนี้ผ่านทางรายการวิทยุชื่อดัง จนกลายเป็นกระแสผวาผีชุดดำ “ธี่หยด” กันมานานหลายปีอ่านข่าวเพิ่มเติม: ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่แซวกันสนั่นโซเชียล ! ป้ายสีแดงหน้าร้านค้า อีกหนึ่งเรื่องตลกๆ ในไต้หวันตามข้อมูลจาก “เดลินิวส์ออนไลน์” เรื่องย่อ “ธี่หยด” ในปี พ.ศ. 2515 เกิดเหตุการณ์สุดสะพรึงขึ้น เมื่อเด็กสาวในหมู่บ้านห่างไกลแถบ จ.กาญจนบุรี เสียชีวิตปริศนา โดยก่อนที่เด็กจะเสียชีวิต ชาวบ้านจะได้ยินเสียงชวนขนหัวลุก “..ธี่หยด… ธี่หยด…” แว่วมาในยามราตรี ขณะนั้น “ยักษ์” (รับบทโดย ณเดชน์ คูกิมิยะ) ทหารหนุ่มได้ปลดประจำการ เขากลับมาช่วยงานทำไร่ที่บ้านตามคำขอของ “เฮียฮั่ง” (รับบทโดย ปรเมศร์ น้อยอ่ำ) และ “นางบุญเย็น” (รับบทโดย อริศรา วงษ์ชาลี) พ่อและแม่ของเขา“ยักษ์” มีน้อง ๆ อายุไล่เลี่ยกัน 5 คน ได้แก่ ยศ (รับบทโดย จูเนียร์-กาจบัณฑิต ใจดี), ยอด (รับบทโดย เฟรนด์-พีระกฤตย์ พชรบุณยเกียรติ), หยาด (รับบทโดย เดนิส เจลีลชา คัปปุน), แย้ม (รับบทโดย มิ้ม-รัตนวดี วงศ์ทอง) และ ยี่ (รับบทโดย นีน่า-ณัฐชา เจสสิก้า พาโดวัน) วันหนึ่งพี่น้อง 3 สาวกำลังกลับบ้าน พวกเธอก็เจอเข้ากับหญิงชุดดำลึกลับ จากนั้นไม่นาน “แย้ม” ก็เริ่มมีอาการป่วย มีอาการไข้ปวดท้อง พอพาไปหาหมอ ก็พบว่าแค่ร่างกายอ่อนเพลีย แต่พอกลับมาบ้าน อาการป่วยยังคงทรุดลงเรื่อย ๆ พร้อมกับอาการแปลก ๆ เหมือนไม่ใช่ “แย้ม” คนเดิมอีกต่อไปอ่านข่าวเพิ่มเติม: สถาบันวิจัยกล้วยไต้หวัน ผลักดันการแปรรูปผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ จากกล้วยดิบ เพื่อเพิ่มมูลค่า
[เว็บไซต์ข่าวรอบโลกสำหรับผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่] ตามข้อมูลจาก “สำนักข่าวไทยรัฐออนไลน์” ขวดพลาสติกรีไซเคิล หรือ เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "ขวด rPET" เป็นขวดที่ผลิตจากวัสดุพลาสติกที่ได้ใช้งานแล้ว มาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยผ่านกระบวนการรีไซเคิล ซึ่งสามารถช่วยอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และลดปริมาณขยะพลาสติก ที่กำลังเป็นปัญหาอยู่ในปัจจุบันได้ โดยพลาสติกที่นำมารีไซเคิล จะต้องเป็นพลาสติกชนิดที่ 1 ประเภทโพลีเอทิลีน เทเรฟทาเลต (Polyethylene terephthalate, PET) เป็นพลาสติกที่มีความเหนียวสูง ใสแวววาวเป็นพิเศษ ปลอดภัย แข็งเรง ไม่แตกง่าย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นขวดพลาสติกใสๆ ที่มองทะลุได้ เช่น ขวดน้ำเปล่า ขวดน้ำอัดลม ขวดน้ำมันพืช และขวดเครื่องปรุงอาหาร เป็นต้น สำหรับ คำว่า “ขวดพลาสติกรีไซเคิล 100%” (recycled PET, rPET) หมายถึง ขวดที่ผลิตจากพลาสติกรีไซเคิล 100% นั่นเอง ซึ่งความนิยมของขวดพลาสติกรีไซเคิล ได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากความกังวลที่เพิ่มมากขึ้น เกี่ยวกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ของขยะพลาสติก และความต้องการทางเลือกที่ยั่งยืนอ่านข่าวเพิ่มเติม: ศูนย์ศึกษาสังคมนครเกาสง จัดงาน "เทศกาลภาพยนตร์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้" ชมฟรี 4 สัปดาห์ติดต่อกัน!ตามข้อมูลจาก “สำนักข่าวไทยรัฐออนไลน์” ระบุว่า การเปลี่ยนมาใช้ขวดพลาสติกรีไซเคิล สามารถสร้างความยั่งยืนให้กับโลกได้ เพราะมีประโยชน์ในด้านต่างๆ ดังต่อไปนี้1. ประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อม - ขวดที่ผลิตจากพลาสติกรีไซเคิล 100% ใช้พลังงานในการผลิตน้อยกว่าขวดพลาสติกใหม่ จึงทำให้การใช้ขวดพลาสติกรีไซเคิล สามารถช่วยอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และลดการใช้พลังงานได้2. ลดการปล่อยของเสีย และผลกระทบต่อธรรมชาติ - ด้วยการรีไซเคิลขวดพลาสติก ทำให้เราสามารถเปลี่ยนเส้นทางขยะ จากการฝังกลบ หรือการทิ้งลงสู่แม่น้ำและมหาสมุทรได้ จึงเป็นการช่วยลดมลพิษ และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม3. ลดรอยเท้าคาร์บอน - กระบวนการรีไซเคิลนั้น ปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อยลง เมื่อเทียบกับการผลิตขวดพลาสติกใหม่ ซึ่งช่วยลดรอยเท้าคาร์บอนที่เกิดในกระบวนการผลิตได้4. ส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียน - การใช้ขวดพลาสติกรีไซเคิล ถือเป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียน จากการนำขยะพลาสติกที่ไม่ใช้แล้ว นำมารีไซเคิลเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ หมุนเวียนเป็นวงจร5. สร้างความตระหนักรู้ของผู้บริโภค - การเลือกผลิตภัณฑ์ที่บรรจุในขวดพลาสติกรีไซเคิล 100% ถือเป็นการกระตุ้นให้ธุรกิจต่างๆ หันมาใช้แนวทางปฏิบัติด้านบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นอ่านข่าวเพิ่มเติม: สนง.การท่องเที่ยวไต้หวัน ประจำกรุงเทพฯ เชิญปันปัน ยีย์ยีย์ มาวาดภาพ “หมีคู่รักเที่ยวไต้หวัน”บนรถไฟฟ้าบีทีเอส
[เว็บไซต์ข่าวรอบโลกสำหรับผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่] ตามข้อมูลจาก “สำนักข่าวไทยรัฐออนไลน์” ระบุว่า อาสาพัฒนาชุมชน เกาะพีพี แสดงรายได้ท่องเที่ยวปีนี้ สามารถกวาดไปได้ถึง 276 ล้าน ขึ้นเป็นอันดับ 1 ของประเทศ มีผู้คนแห่เข้าท่องเที่ยวมากว่า 1 ล้านคน ที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี อ.เมือง จ.กระบี่ มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เดินทางมาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง หลังเริ่มเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการ สำหรับการท่องเที่ยวทะเลฝั่งอันดามัน โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล ในเขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี เป็นที่นิยมและเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก เนื่องจากเป็นทะเลที่สวยงามติดอันดับโลก และยังมีความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรทางธรรมชาติ จึงเป็นที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวในแต่ละปีจำนวนมาก แหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยม อาทิ อ่าวมาหยา, เกาะพีพี, อ่าวไร่เลย์, เกาะปอดะ,ทะเลแหวก, เกาะไม้ไผ่ เป็นต้นอ่านข่าวเพิ่มเติม: ศูนย์ศึกษาสังคมนครเกาสง จัดงาน "เทศกาลภาพยนตร์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้" ชมฟรี 4 สัปดาห์ติดต่อกัน!ตามข้อมูลจาก “สำนักข่าวไทยรัฐออนไลน์” นางรัชนก แพน้อย หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี เปิดเผยว่า แหล่งท่องเที่ยวทางทะเลในเขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ยังได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากเป็นอันดับต้นๆ ของการท่องเที่ยวในอุทยานทางทะเล โดยในปีงบประมาณ 2566 ตั้งแต่เดือน ต.ค. 65 - ก.ย. 66 อุทยานฯ สามารถจัดเก็บเงินรายได้สูงถึง 276,213,477 บาท ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเข้ามาเที่ยวรวม 1,153,515 คน ซึ่งยอดรายได้สูงกว่าปีงบประมาณ 2565 ที่จัดเก็บได้ 72,587,570 บาท ทำให้ปีนี้รายได้เพิ่มขึ้น จำนวน 203,625,907 บาท สูงสุดเป็นอันดับ 1 ในการจัดเก็บค่าเข้าเที่ยวอุทยานฯ จากทั่วประเทศ และยังสามารถจัดเก็บเงินผ่านระบบการจำหน่ายบัตรค่าบริการอิเล็กทรอนิกส์ (E-Ticket) เพิ่มขึ้นคิดเป็น 46.55% ในเดือน ก.ย. 66 อีกด้วยอ่านข่าวเพิ่มเติม: สนง.การท่องเที่ยวไต้หวัน ประจำกรุงเทพฯ เชิญปันปัน ยีย์ยีย์ มาวาดภาพ “หมีคู่รักเที่ยวไต้หวัน”บนรถไฟฟ้าบีทีเอส