เคล็ดลับลดน้ำหนักด้วยแพทย์แผนจีน: 「เก๋ากี้ + พุทราแดง 4 ลูก」 ลดน้ำหนักอย่างยั่งยืน!

泰文字幕-2024新台灣之光-凱琳

นิทรรศการพิเศษ 'ทอแสงป่า' ที่กวานจื่อหลิ่ง เปิดแล้ว! ไม้และไผ่แปลงร่างเป็นจุดเด่นใหม่ในศิลปะแสงและเงา

นิทรรศการพิเศษ "ทอแสงป่า" ที่พิพิธภัณฑ์เรื่องราวไม้ไต้หวันในกวานจื่อหลิ่ง เปิดให้เข้าชมแล้ว จัดโดยสาขาเจียอี้ของสำนักงานป่าไม้และอนุรักษ์ธรรมชาติ นิทรรศการนี้ผสานศิลปะแสงและเงากับเทคนิคงานฝีมือเพื่อแสดงเสน่ห์ที่หลากหลายของไม้และไผ่ในประเทศ นิทรรศการประกอบด้วยสามโซนหลัก: "ทอแสงเวลา", "โซนนิทรรศการทอแสง" และ "ทอแสงจังหวะ" ใช้ไฟ LED และงานฝีมือจากไม้และไผ่ในการเปลี่ยนวัสดุที่เงียบสงบให้กลายเป็นศิลปะแสงและเงาที่เต็มไปด้วยการเคลื่อนไหว นิทรรศการนี้ไม่เพียงแสดงความงามของงานฝีมือ แต่ยังเพิ่มประสบการณ์ห้าประสาทสัมผัสและสินค้าวัฒนธรรมสร้างสรรค์ ทำให้การท่องเที่ยวฤดูใบไม้ร่วงที่กวานจื่อหลิ่งมีสีสันยิ่งขึ้นสามโซนหลัก – จุดเช็คอินใหม่ ก่อนการเปิดนิทรรศการ สาขาเจียอี้ได้เชิญนักเรียนจากโรงเรียนประถมทดลองเซียนเฉ่าให้มาลองสัมผัสก่อน ภายในนิทรรศการ ไม้ในประเทศหกชนิด รวมทั้งไซเปรสแดงและไผ่มากิโนะ ถูกเปลี่ยนผ่านเอฟเฟกต์แสงเป็นเก้าอี้พักผ่อนที่ไม่เหมือนใครและภูตป่า ทำให้นักเรียนต้องอุทานด้วยความตื่นเต้นว่า "ไม้ส่องแสงได้!", "ไผ่กำลังเต้น!" ซึ่งกลายเป็นจุดเด่นของนิทรรศการ นอกจากนี้ยังมีจุดเช็คอิน "ศิลปะไม้ดี" และ "ศิลปะไผ่ดี" ที่ให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสประสบการณ์โต้ตอบอย่างเต็มที่โซนนิทรรศการทอแสง – บทกวีทอแสง บทโหมโรงแห่งป่าที่ประกอบด้วยชิ้นไม้และไม้ไผ่ถักสาน ผสานกับสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นเพื่อสร้างบรรยากาศที่แสนโรแมนติก (ภาพ/อ้างอิงจากเว็บไซต์สำนักงานป่าไม้และอนุรักษ์ธรรมชาติ)ประสบการณ์ห้าประสาทสัมผัส – สัมผัสเสน่ห์ของไม้ในประเทศ สาขาเจียอี้กล่าวว่าพิพิธภัณฑ์เรื่องราวไม้ไต้หวันมุ่งเน้นให้ประชาชนได้สัมผัสความงามของไม้ในประเทศอย่างลึกซึ้ง เมื่อเดินเข้าไปในพิพิธภัณฑ์ ผู้เข้าชมจะได้กลิ่นหอมของไม้ทันที สามารถสัมผัสประสบการณ์โดยการสังเกต, สัมผัส, เคาะ และดมกลิ่นจากต้นไม้ในประเทศ 14 ชนิด เช่น ไซเปรสแดง, ไต้หวันเนีย, การบูร, และไม้มะฮอกกานี เพื่อสัมผัสถึงลวดลายและเนื้อผ้า นิทรรศการยังแสดงสินค้าวัฒนธรรมสร้างสรรค์ เช่น ตุ๊กตาอาลีซานฟอเรสต์ 2488, แผ่นไม้เสริมของชนเผ่าโจว และชุดไฟไม้ จัดแสดงในกรอบหน้าต่างแบบญี่ปุ่น สร้างบรรยากาศที่มีเอกลักษณ์จังหวะการทอแสง – ทอภูเขาป่าในจินตนาการ แสดงชุดตุ๊กตา "Forest 2488" ที่มีภาพลักษณ์ป่าเขาอาลีซานในช่องติดผนังของสถาปัตยกรรมแบบญี่ปุ่นของพิพิธภัณฑ์เรื่องราว นำประวัติศาสตร์ป่าไม้และคุณลักษณะทางนิเวศวิทยาของอาลีซานมาสู่กวานจื่อหลิ่ง (ภาพ/อ้างอิงจากเว็บไซต์สำนักงานป่าไม้และอนุรักษ์ธรรมชาติ)นิทรรศการพิเศษนี้ยังนำเสนอองค์ประกอบของไผ่โดยใช้แสงและเงาเพื่อสร้างความสวยงามทางสายตา ผู้เข้าชมสามารถเพลิดเพลินกับประสบการณ์ห้าประสาทสัมผัสในระหว่างการเยี่ยมชมพื้นที่ทิวทัศน์กวานจื่อหลิ่ง และได้รับความเข้าใจลึกซึ้งยิ่งขึ้นเกี่ยวกับการพัฒนาอย่างยั่งยืนของไม้และไผ่ในประเทศ เป็นส่วนหนึ่งของการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ของไต้หวันข้อมูลนิทรรศการเรื่องราวไม้ไต้หวันสถานที่: เลขที่ 30, กวานจื่อหลิ่ง, หมู่บ้านกวานหลิง, เขตไป๋เหอ, เมืองไถหนาน (ตรงข้ามสวนสาธารณะกวานหลิงในเขตทิวทัศน์กวานจื่อหลิ่ง)เวลาเปิดทำการ: วันอังคารถึงวันอาทิตย์ 09:30-16:00 น.วันหยุด: วันจันทร์, วันส่งท้ายปีเก่าตามปฏิทินจันทรคติ, และวันที่รัฐบาลประกาศหยุดเนื่องจากภัยพิบัติทางธรรมชาติข้อมูลเว็บไซต์: สาขาเจียอี้ของสำนักงานป่าไม้และอนุรักษ์ธรรมชาติ, พิพิธภัณฑ์เรื่องราวไม้ไต้หวัน

พบ ‘หนูผี’ หายากที่คิดว่าสูญพันธุ์ไปแล้ว หลังจากไม่เจอตัวเป็น ๆ ร่วมร้อยปี

ทีมนักวิจัยจากสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งแคลิฟอร์เนียสามารถถ่ายภาพ “หนูผีเขาไลเอลล์” (Mount Lyell shrew) ได้เป็นครั้งแรกในรอบร้อยปี หลังจากใช้เวลา 3 คืนสำรวจพื้นที่เทือกเขาเซียร์ราเนวาดาฝั่งตะวันออก หนูผีชนิดนี้มีขนาดเล็กมาก น้ำหนักเพียงไม่กี่กรัม และเคยถูกค้นพบครั้งแรกเมื่อช่วงต้นศตวรรษที่ 1900 แต่ไม่มีใครเคยพบตัวเป็น ๆ หรือบันทึกภาพของมันมาก่อนการค้นพบครั้งสำคัญวิชาล สุบรามันยัน นักศึกษาวัย 22 ปีจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ พร้อมด้วยฮาร์เปอร์ ฟอร์บส์ และปรากฤต เจน เดินทางไปสำรวจสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเพื่อศึกษาทางชีววิทยา พวกเขาได้ปรึกษานักวิทยาศาสตร์จากพิพิธภัณฑ์สัตววิทยาสัตว์มีกระดูกสันหลัง และพบว่า ไม่มีใครเห็นหนูผีชนิดนี้มานานเกือบ 20 ปี ทำให้เกิดข้อสงสัยว่ามันยังคงมีชีวิตอยู่หรือไม่แม้หนูผีเขาไลเอลล์จะไม่ถูกจัดอยู่ในรายชื่อสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ของรัฐบาลกลาง แต่รัฐแคลิฟอร์เนียระบุว่ามันเป็นสัตว์ที่มีความเสี่ยงสูงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งอาจทำให้สูญเสียถิ่นที่อยู่อาศัยถึง 90%กลยุทธ์การจับภาพสัตว์ลึกลับเนื่องจากหนูผีมีอัตราการเผาผลาญสูงมาก หากขาดอาหารเพียงไม่กี่ชั่วโมงอาจตายได้ ทำให้การจับตัวและศึกษาพวกมันเป็นเรื่องยาก ทีมสำรวจใช้เวลากว่า 3 วันในการขุดหลุมกับดักกว่า 150 หลุม พร้อมวางอาหารล่อ เช่น หนอนแป้งและอาหารแมว พวกเขาตรวจสอบกับดักทุก ๆ 2 ชั่วโมงเพื่อป้องกันการเป็นอันตรายต่อสัตว์ในที่สุด พวกเขาจับหนูผีได้ทั้งหมด 18 ตัว และอย่างน้อย 6 ตัวเป็นหนูผีเขาไลเอลล์ โดยต้องใช้การถ่ายภาพมาโครและตรวจสอบดีเอ็นเอเพื่อแยกแยะสายพันธุ์ที่คล้ายคลึงกันจุดเด่นของมันคือมีจมูกที่ยาว ซึ่งช่วยในการขุดโพรงการอนุรักษ์และความสำคัญของการค้นพบแม้หนูผีเขาไลเอลล์จะมีขนาดเล็ก แต่ก็มีพฤติกรรมที่น่าสนใจ เช่น การเก็บอาหารไว้กินทีหลัง หรือแอบงีบหลับระหว่างวัน ทีมสำรวจเชื่อว่าการเผยแพร่ข้อมูลและภาพถ่ายของสัตว์หายากชนิดนี้จะช่วยสร้างความตระหนักรู้และสนับสนุนการอนุรักษ์“หากไม่มีการเผยแพร่ข้อมูล หนูผีเขาไลเอลล์อาจสูญพันธุ์ไปโดยไม่มีใครรู้เลย” สุบรามันยันกล่าว การค้นพบครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการศึกษาความหลากหลายทางชีวภาพ และอาจช่วยปกป้องสิ่งมีชีวิตหายากที่ยังซ่อนตัวอยู่ในธรรมชาติได้ต่อไป