img
:::
ข่าวทั่วไป

อย. ตรวจสอบยาผิวขาว หลังมีนักเรียนเตรียมมอบตัวเข้าเรียนตรวจโรคไม่ผ่าน

ภาพนำมาจาก/pixabay
ภาพนำมาจาก/pixabay

[เว็บไซต์ข่าวรอบโลกสำหรับผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่] ภก.วีระชัย นลวชัย รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยถึงประเด็นนักเรียนวัย 19 ปี ตรวจโรคเพื่อเตรียมเข้าเรียนคณะเภสัชศาสตร์ แต่กลับพบสารเมทแอมเฟตามีนในปัสสาวะ ไม่ผ่านการตรวจโรคเพื่อเข้าเรียน ซึ่งแม่ของนักเรียนคนดังกล่าวเชื่อว่าที่ตรวจเจอเพราะยาผิวขาว ว่า สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบเรื่องนี้ เบื้องต้นพบไม่ใช่ยาแต่เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารยี่ห้อหนึ่งที่เพื่อนแนะมา ซึ่งมีการซื้อผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยนักเรียนคนดังกล่าวให้ข้อมูลว่าซื้อมาเพื่อช่วยทำให้ผิวขาว ด้วยราคากระปุกละประมาณ 80 บาท และให้ข้อมูลว่ากินอาหารเสริมเพียงชนิดเดียวเท่านั้น

อ่านข่าวอื่นเพิ่มเติม : TPASS มาแล้ว บัตรโดยสารรายเดือนเวอร์ชั่นใหม่มีโปรหรือซื้อได้ที่ไหนบ้างดูที่เดียวจบ

จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมดังกล่าวได้ขอขึ้นทะเบียนกับ อย. ถูกต้อง จากโรงงานแห่งหนึ่งใน จ.ราชบุรี รายละเอียดส่วนประกอบที่จดแจ้ง พบเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารทั่วไป ไม่มีสรรพคุณเรื่องผิวขาว เป็นเพียงอาหารเสริม ซึ่งไม่น่าจะมีส่วนผสมของเมทแอมเฟตามีน แต่ถ้าเป็นผลิตภัณฑ์ที่อ้างว่าลดความอ้วน อาจมีโอกาสพบแมทแอมเฟตามีนได้ เพราะจะทำให้คนที่กินรู้สึกตื่นตัว ลดความอยากอาหารทำให้น้ำหนักลดเหมือนที่เห็นผู้เสพยาบ้าเป็นประจำ จะมีรูปร่างผอม นั่นคืออาการข้างเคียงของเมทแอมเฟตามีน แต่อาจเกิดจากการปนเปื้อนได้ถ้าหากโรงงานดังกล่าวผลิตอาหารเสริมที่อ้างว่าลดความอ้วนได้ ซึ่งไม่ถูกต้องตามกฎหมาย

อย่างไรก็ตามยังต้องตรวจสอบละเอียดว่าผลิตภัณฑ์มีสารหรือไม่ รวมถึงสามารถตกค้างอยู่ในร่างกายได้นานแค่ไหน เพราะโดยปกติแล้วจะถูกขับออกทางปัสสาวะ ทั้งนี้ ตนเองเชื่อว่าเด็กที่สอบติดคณะดังกล่าวต้องตั้งใจเรียน คงไม่ไปใช้ยาเสพติด ส่วนจะใช้โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์นั้นต้องรอผลการตรวจสอบ

อ่านข่าวอื่นเพิ่มเติม : นำเข้าเนื้อสัตว์และพืชอย่างผิดกฎหมายมีโทษปรับ 200,000 ร่วมป้องกันโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรด้วยกัน

ส่วนที่นักเรียนคนดังกล่าวระบุว่าไปตรวจที่ รพ. แล้วใช้ชุดตรวจเบื้องต้น TestKit แล้วได้ผลดังกล่าว ภก.วีระชัย กล่าวว่า การใช้ TestKit ในการตรวจเบื้องต้นมีโอกาสได้ผลลวง ซึ่งเจอได้บ่อยครั้งกับยาลดน้ำมูก พอตรวจแล้วเจอสารซูโดอีเฟดรีน ที่ถือเป็นยาเสพติด ดังนั้น การตรวจเบื้องต้นด้วย TestKit จึงไม่สามารถนำมาใช้ประกอบการพิจารณาคดีได้ ต้องใช้ผลจากห้องแล็บเท่านั้น อย่างไรก็ตาม อย. ได้ขอความร่วมมือนักเรียนคนดังกล่าวเก็บข้อมูลต่างๆ เพื่อส่งตรวจที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ จ.นครราชสีมา โดยใช้วิธีการมาตรฐาน จะทราบผลประมาณ 1 สัปดาห์ ซึ่งถ้าผลตรวจนี้ไม่พบจะแปลว่าผลตรวจที่ได้มาก่อนหน้านี้เป็นผลบวกลวง

มาเป็นคนแรกที่แสดงความคิดเห็น

ข่าวเด่นประเด็นร้อน

ข่าวล่าสุด 最新消息icon
回到頁首icon
Loading