เมื่อวันที่ 8 มีนาคม ซึ่งเป็นวันสตรีสากล ได้เกิดการประท้วงขึ้นในหลายเมืองทั่วโลก โดยผู้ประท้วงเรียกร้องให้รัฐบาลและสังคมเพิ่มความคุ้มครองสิทธิสตรี กำจัดความไม่เท่าเทียมทางเพศ และแก้ปัญหาความรุนแรงในครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ผู้ประท้วงเน้นย้ำว่าการเพิ่มขึ้นของกลุ่มอนุรักษ์นิยมฝ่ายขวา กำลังทำให้ขบวนการเรียกร้องสิทธิสตรีในยุโรปและทั่วโลกเผชิญกับความเสี่ยงที่จะถอยหลัง

การประท้วงที่กรุงเบอร์ลินมีผู้เข้าร่วมหลายพันคน โดยพวกเขาชูป้ายเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินนโยบายเพื่อความเท่าเทียมทางเพศในที่ทำงาน เพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้หญิง และเพิ่มการสนับสนุนต่อเหยื่อความรุนแรงทางเพศ ผู้ประท้วงวิพากษ์วิจารณ์ว่าช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา กระแสฝ่ายขวาในหลายประเทศของยุโรปได้เพิ่มขึ้น ซึ่งนำไปสู่การเพิกเฉยต่อสิทธิสตรีในเชิงนโยบาย ตัวอย่างเช่น ในบางประเทศ สิทธิในการทำแท้งถูกท้าทายอีกครั้ง และมีพรรคการเมืองบางพรรคพยายามล้มเลิกกฎหมายที่มีอยู่ นอกจากนี้ ปัญหาความรุนแรงทางออนไลน์และการเลือกปฏิบัติในที่ทำงานต่อสตรีก็ยังคงมีอยู่ทั่วไปรัฐบาลควรดำเนินมาตรการเชิงรุกมากขึ้น เพื่อให้มั่นใจว่าสิทธิของสตรีจะไม่ถูกละเมิดเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง (ภาพ / ภาพจาก Pexels)

นักวิชาการวิเคราะห์ว่าการเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิสตรีเคยมีความก้าวหน้าอย่างมากในช่วงต้นศตวรรษที่ 21 แต่ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ด้วยสภาพแวดล้อมทางการเมืองที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้บางประเทศเริ่มพิจารณานโยบายเกี่ยวกับสิทธิสตรีอีกครั้ง ซึ่งทำให้ความก้าวหน้าที่เคยมีมาก่อนหน้านี้เกิดการถดถอย ผู้ประท้วงเน้นย้ำว่าสตรีควรแสดงความคิดเห็นอย่างต่อเนื่องเพื่อเรียกร้องความเท่าเทียมอย่างแท้จริง และรัฐบาลควรมีมาตรการเชิงรุกมากขึ้นเพื่อรับรองว่าสิทธิสตรีจะไม่ถูกบั่นทอนจากการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง