img
:::
ข่าวทั่วไป

รับประทาน 'วิตามิน สมุนไพร ยาบำรุง' อย่างไร? ให้ตับไม่พัง

การบริโภคในปริมาณที่มากเกินไปและต่อเนื่องเป็นเวลานาน อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว โดยเฉพาะสุขภาพตับ
การบริโภคในปริมาณที่มากเกินไปและต่อเนื่องเป็นเวลานาน อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว โดยเฉพาะสุขภาพตับ

ปัจจุบัน วิถีชีวิตของผู้คนมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ความเร่งรีบในการทำงาน การเรียน รวมถึงการเผชิญกับสภาพแวดล้อมที่เสื่อมโทรม เช่น ปัญหาฝุ่น PM2.5 ที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ผู้คนให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการนอน การรับประทานอาหาร หรือแม้แต่การบริโภคสมุนไพรและวิตามิน

ผลกระทบของสมุนไพรและวิตามินต่อสุขภาพตับ

แม้ว่าสมุนไพรและวิตามินจะมีประโยชน์ในการบำรุงร่างกายและเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน แต่การบริโภคในปริมาณมากเกินไปหรือติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจทำให้เกิดผลเสียโดยเฉพาะกับตับ ตัวอย่างเช่น ใบขี้เหล็กที่เคยถูกใช้เป็นยาสมุนไพรแต่ถูกห้ามใช้ในบางรูปแบบเนื่องจากมีรายงานว่าทำให้เกิดตับอักเสบเฉียบพลัน เช่นเดียวกับสมุนไพรคาวา (Kava) ที่อาจส่งผลให้ตับเป็นพิษ

การบริโภควิตามินที่มากเกินไปอาจเป็นอันตราย

  • วิตามินเอ หากได้รับมากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการอ่อนเพลีย ผมร่วง และตับอักเสบ โดยเฉพาะในหญิงตั้งครรภ์อาจส่งผลกระทบต่อทารก
  • วิตามินซี การบริโภคมากเกินไปอาจทำให้ท้องเสีย ระคายเคืองกระเพาะอาหาร และเพิ่มความเสี่ยงเป็นนิ่วในไต
  • วิตามินดี หากได้รับในปริมาณมาก อาจทำให้ระดับแคลเซียมในเลือดสูงจนเกิดอาการคลื่นไส้ ปวดหัว และเพิ่มความเสี่ยงนิ่วในไต
  • ธาตุเหล็กและสังกะสี การได้รับมากเกินไปอาจส่งผลให้ระบบย่อยอาหารผิดปกติ และอาจทำให้เกิดพิษต่อเซลล์ ส่งผลกระทบต่ออวัยวะสำคัญ เช่น ตับ หัวใจ และไต

สมุนไพรมีประโยชน์ ทานมากอาจมีโทษ

ดูแลสุขภาพตับด้วยวิธีธรรมชาติ

เพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพตับ ควรเลือกรับประทานอาหารที่ช่วยฟื้นฟูตับ เช่น ผักใบเขียว บีทรูท ส้ม อะโวคาโด วอลนัท และกระเทียม นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ และการใช้ยาหรืออาหารเสริมที่อาจส่งผลเสียต่อตับ

การบริโภคสมุนไพรและวิตามินควรอยู่ในปริมาณที่เหมาะสม และหากมีอาการผิดปกติ ควรหยุดใช้และปรึกษาแพทย์ทันที เพื่อป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว

ข่าวเด่นประเด็นร้อน

:::
回到頁首icon
Loading