เมื่อไม่นานมานี้ ทีมปฎิบัติการพิเศษมณฑลเจียอี้ของกองอำนวยการเขตภาคใต้ สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองไต้หวันได้รับแจ้งว่า โรงงานผลิตน้ำแห่งหนึ่งในเมืองตงสือทำการว่าจ้างแรงงานข้ามชาติผิดกฎหมาย หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองได้ทำการสืบสวนและทราบรายละเอียดตารางเวลาการทำงานของโรงงานแห่งนี้ ไม่กี่วันที่ผ่านมาก็ได้บุกเข้าจับกุมโดยใช้โอกาสช่วงเวลาเที่ยงที่ประตูใหญ่ของโรงงานเปิด ซึ่งสามารถจับกุมแรงงานข้ามชาติหลบหนีชาวอินโดนิเซียได้ 2 ราย โดยหนึ่งในนั้นพึ่งจะทานอาหารทะเลที่ทางโรงงานเตรียมไว้ให้และถูกจับกุมโดยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งการกระทำของแรงงานข้ามชาติทั้ง 2 รวมทั้งนายจ้างเป็นการละเมิดกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองและกฎหมายบริการจัดหางาน
เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองได้อาศัยช่วงเวลาเที่ยงที่มีการเปิดประตูใหญ่เนื่องจากรถขนสินค้าเข้าไปในโรงงาน เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองได้ทำการล้อมที่เกิดเหตุเอาไว้และทำการตรวจสอบซึ่งทำให้ทุกคนตกตะลึงไม่คาดคิดว่าเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจะตามรถบรรทุกเข้ามาในโรงงาน อาหวานซึ่งหนึ่งในแรงงานข้ามชาติที่ถูกจับกุม เป็นแรงงานข้ามชาติที่หลบหนีในไต้หวันมาปีกว่าๆ ตัวเค้าบอกกับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองว่า อาหารทะเลของไต้หวันสดและหวานจริงๆ ตนเองพึ่งทานอาหารทะเลที่ทางโรงงานจัดเตรียมไว้ให้ กำลังล้างจานและตะเกียบ ไม่ได้สังเกตุว่าเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองได้เข้ามาในโรงงานแล้ว ตอนนี้ก็ต้องให้ความร่วมมือกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองในการสอบสวนและรอการส่งกลับอินโดนิเซียต่อไป
นายจัง อวี้หลง (張玉龍) หัวหน้าทีมปฎิบัติการพิเศษมณฑลเจียอี้กล่าวว่า ประชาชนอย่าเห็นแก่ความสะดวกว่าจ้าง แนะนำ หรือให้ที่พักพิงแก่แรงงานข้ามชาติที่หลบหนีหรือชาวต่างชาติที่พำนักอย่างผิดกฎหมาย เมื่อถูกจับได้ ตามกฎหมายบริการจัดหางาน นายจ้างจะถูกปรับเป็นเงินระหว่าง 150,000 ถึง 750,000 เหรียญ หากภายใน 5 ปี มีการกระทำผิดซ้ำอีกก็จะต้องรับผิดทางอาญาและโทษสูงสุดคือจำคุกคงที่ไม่เกิน 3 ปี หรือปรับเป็นเงินสูงสุด 1.2 ล้านเหรียญไต้หวัน