เกิดดราม่าในกลุ่มวัยทำงานอีกครั้งกับประเด็นที่ว่า &ldquoในยุคเศรษฐกิจผันผวนสูงแบบนี้ คนที่ทำงานชิลๆ หรือทำงานแบบ Work Life balance อาจจะอยู่ไม่รอด แต่ต้องเข้าสู่โหมด Work Hard ถึงจะอยู่รอดได้&rdquo เมื่อประเด็นดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปในโลกออนไลน์ ก็มีทั้งกระแสของคนเห็นด้วยและคนไม่เห็นด้วย พร้อมเกิดคำถามตามมาว่า การทำงานหนักอย่างเดียวทำให้อยู่รอดได้จริงหรือ? 
เรื่องนี้มีความคิดเห็นในอีกมุมหนึ่งจาก &ldquoโตมร ศุขปรีชา&rdquo นักคิดนักเขียนชื่อดัง ที่ได้โพสต์ข้อความสะท้อนมุมมองถึงประเด็นดังกล่าวผ่านเพจส่วนตัวว่า จริงๆ แล้วมีคนจำนวนมากในสังคมเป็นกลุ่มที่ Work Hard ในระดับ Hardest จนไม่สามารถจะทำงานหนักไปมากกว่านี้ได้อีกแล้ว และแม้จะทำงานหนักขนาดนั้นแต่ก็ยังไม่สามารถลืมตาอ้าปากได้ ซึ่งพวกเขาถูกจัดลำดับทางสังคมให้เป็น &lsquoคนชั้นล่าง&rsquoWork Hard อาจทำให้เกิดงานที่ไร้ประสิทธิภาพ ขณะที่สังคมควรถกกันเรื่อง Decent Work มากขึ้น
โตมรมองว่า Work Hard เป็นคำที่ถูกสงวนไว้สำหรับคนที่มีโอกาสในการดึงทรัพยากรเข้ามาอยู่กับตัวเอง ซึ่งส่วนใหญ่คือคนชั้นกลาง แต่ถึงอย่างนั้น สภาพสังคมที่ไม่เป็นธรรมและเอื้อต่อคนบางกลุ่ม ทำให้คนชั้นกลางบางคนก็ไม่มีทางรวยขึ้นมาได้ 
นอกจากนี้ การ Work Hard ส่วนใหญ่แล้วเงินที่ผลิตขึ้นมาไม่ได้ตกอยู่กับคนที่ทำงานหนักจริงๆ แต่กลับตกไปอยู่กับกลุ่มคนชั้นบน ทำให้การส่งต่ออุดมการณ์ Work Hard มีปัญหาซ่อนอยู่ในตัวมันเอง อีกทั้งการ Work Hard ยังไปเบียดเบียนวิถีชีวิตแบบอื่นๆ ที่มนุษย์สามารถเลือกได้ เช่น การใช้ชีวิตแบบกลมกลืนกับธรรมชาติ หรือการใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย