ตามข้อมูลจาก “คมชัดลึกออนไลน์” ได้แบ่งปันทริคง่ายๆ ในการเลือกรับประทานโยเกิร์ตให้หุ่นเป๊ะ-ผิวปัง ดังนี้1. รู้จักส่วนผสม เลือกดีมีชัยไปกว่าครึ่งผลิตภัณฑ์โยเกิร์ตมีให้เลือกทั้งที่ผลิตจากนม และไม่ได้ผลิตจากนม ซึ่งมีคุณค่าทางสารอาหารและรสชาติแตกต่างกันไป แต่สิ่งสำคัญสำหรับการเลือกโยเกิร์ตของสายรักสุขภาพก็คือ อย่าลืมดูปริมาณน้ำตาลในส่วนประกอบ ควรดูข้อมูลส่วนประกอบเลือกอันที่มีน้ำตาลน้อย และควรเลือกโยเกิร์ตรสธรรมชาติ ไม่ผสมผลไม้หรือส่วนประกอบอื่นเพราะมักจะมีน้ำตาลแฝงมาด้วย2. โปรตีน ตัวเอกที่ทำให้อิ่มท้องสำหรับใครที่อยากคุมอาหาร ต้องมองหาอาหารที่มีโปรตีนและไฟเบอร์สูง เพราะช่วยให้เรารู้สึกอิ่มนานขึ้น ลดการกินจุบจิบ การเพิ่มโปรตีนให้ร่างกายสามารถช่วยลดระดับฮอร์โมนเกรลิน ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นความอยากอาหารและทำให้ร่างกายรู้สึกหิว นอกจากนี้ โปรตีนยังจำเป็นสำหรับการซ่อมแซมและเสริมสร้างกล้ามเนื้อ พร้อมสำหรับการออกกำลังกายเพื่อสร้างหุ่นฟิตแอนด์เฟิร์มด้วย ดังนั้นหากใครกำลังเลือกโยเกิร์ตที่ดีต่อการควบคุมน้ำหนัก อย่าลืมดูปริมาณโปรตีนที่ฉลากข้างผลิตภัณฑ์ให้ดีอ่านข่าวเพิ่มเติม: สถาบันวิจัยกล้วยไต้หวัน ผลักดันการแปรรูปผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ จากกล้วยดิบ เพื่อเพิ่มมูลค่า3. เป๊ะทั้งหุ่นทั้งผิว ต้องไม่ลืมบำรุงด้วย Super Food ให้เปล่งปลั่งจากภายในสู่ภายนอกใครที่ตั้งใจดูแลความสวยล้วนเข้าใจดีว่า ถ้าเราตั้งใจลดน้ำหนักหรือลดสัดส่วนลงแต่ไม่ดูแลผิวพรรณให้ดี ก็สร้างความสวยแบบเฮลตี้ไม่ได้ ดังนั้น การเติมอาหารให้กับผิวคืนความเปล่งปลั่งก็เป็นสิ่งที่สำคัญ โดยเลือก โยเกิร์ต ที่มีส่วนประกอบของวิตามินต่างๆ ที่มีประโยชน์ต่อการบำรุงร่างกาย เช่น วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยบำรุงเซลล์ผิวให้สมบูรณ์4. เลือกกินให้ดีพร้อมขยับร่างกายนอกจากเลือก โยเกิร์ต ที่มีส่วนประกอบที่มีประโยชน์แล้ว การออกกำลังกายก็สำคัญไม่แพ้กัน ใครที่ต้องการรักษาสุขภาพต้องออกกำลังกายให้ได้ทั้ง 2 ประเภทคือ คาร์ดิโอเพื่อเผาผลาญพลังงาน เช่น การวิ่ง ว่ายน้ำ เต้น และเวทเทรนนิ่งเพื่อสร้างกล้ามเนื้อ เช่น ยกดัมเบล โยคะ พิลาทิส และอย่าลืมสร้างพลังงานดีๆ ให้ร่างกายด้วยการกินโยเกิร์ตสักถ้วยก่อนออกกำลังกายอ่านข่าวเพิ่มเติม: ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่แซวกันสนั่นโซเชียล ! ป้ายสีแดงหน้าร้านค้า อีกหนึ่งเรื่องตลกๆ ในไต้หวัน
[เว็บไซต์ข่าวรอบโลกสำหรับผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่] ตามข้อมูลจาก “กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข” สำนักทันตสาธารณสุข กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ชวนคนไทยใส่ใจสุขภาพช่องปากและฟัน โดยจะมีการรณรงค์ไปตลอดทั้งปี 2567 เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้ารับการรักษาฟรีได้ตามสิทธิต่างๆ สำหรับสิทธิประโยชน์การรักษาทางทันตกรรมสำหรับข้าราชการ จะครอบคลุมบุคคลในครอบครัว ประกอบด้วย ได้แก่ บิดา มารดา คู่สมรส และบุตรไม่เกิน 3 คนที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ หรือบรรลุนิติภาวะแต่เป็นผู้ไร้ความสามารถหรือเสมือนผู้ไร้ความสามารถที่อยู่ในอุปการะเลี้ยงดูของข้าราชการ ต้องเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่รวมบุตรบุญธรรมหรือบุตรที่ยกให้เป็นบุตรบุญธรรมแก่ผู้อื่น นอกจากนี้ ยังครอบคลุมถึงข้าราชการที่เกษียณอายุราชการแล้ว สามารถตรวจสอบสิทธิและข้อมูลต่างๆเพิ่มเติมได้จาก www.CGD.go.th หรือ Application CGD iHealthcare“ข้าราชการและครอบครัวสามารถเข้ารับบริการที่หน่วยบริการภาครัฐ เพื่อใช้สิทธิเบิกจ่ายตรงค่ารักษาพยาบาลโดยไม่ต้องสำรองจ่าย เพียงแสดงบัตรประจำตัวประชาชนใบเดียวเท่านั้น กรณีบุตรอายุต่ำกว่า 7 ปี ที่ยังไม่มีบัตรประชาชน สามารถใช้สูติบัตรและบัตรประชาชนของผู้ดูแลได้ หรือหากลืมนำบัตรประจำตัวประชาชนหรือเอกสารที่กรมบัญชีกลางกำหนดไปแสดง หรือไปใช้บริการที่หน่วยบริการที่ไม่มีเบิกจ่ายตรง ผู้รับบริการต้องสำรองจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลไปก่อน แล้วนำใบเสร็จรับเงินไปเบิกจากหน่วยงานต้นสังกัดโดยกำหนดระยะเวลาภายใน 1 ปี นับจากวันที่ระบุในใบเสร็จ”อ่านข่าวเพิ่มเติม: ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่แซวกันสนั่นโซเชียล ! ป้ายสีแดงหน้าร้านค้า อีกหนึ่งเรื่องตลกๆ ในไต้หวันตามข้อมูลจาก “กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข” สิทธิสวัสดิการการรักษาพยาบาลข้าราชการครอบคลุมการรักษาทางทันตกรรม 87 รายการ เช่น การอุดฟัน การถอนฟัน การผ่าฟันคุด การผ่าตัดอื่น ๆ เกี่ยวกับช่องปากและขากรรไกร การใส่เฝือกฟัน การรักษาโรคปริทันต์ การรักษาคลองรากฟัน การแก้ไขการสบฟันที่ผิดปกติ การฟอกสีฟันที่ตายแล้ว การใส่เครื่องมือปิดช่องเพดานโหว่ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังครอบคลุมถึงการใส่ฟันเทียมทั้งแบบถอดได้และติดแน่น ส่วนการรักษากรณีจัดฟันจะทำได้เฉพาะในผู้มีภาวะปากแหว่งเพดานโหว่ หรือปากแหว่ง หรือเพดานโหว่ ซึ่งค่าบริการที่สามารถเบิกได้จะถูกกำหนดไว้ในประกาศของกรมบัญชีกลาง ข้าราชการอาจจะต้องชำระค่าส่วนต่างเพิ่มเติมในบางรายการรักษาขึ้นอยู่กับหน่วยบริการที่ข้าราชการเข้ารับบริการ“หมั่นไปพบหมอฟันเพื่อตรวจสุขภาพช่องปากอย่างน้อยปีละครั้ง หากพบปัญหาอย่ารอช้ารีบรักษาอย่างทันท่วงที เพราะจะช่วยลดการลุกลามของโรค ลดความเจ็บปวดทรมานที่เกิดขึ้นจากปัญหาในช่องปาก เมื่อรับการรักษาเรียบร้อยแล้ว ก็จะมีรอยยิ้มที่สดใสพร้อมให้บริการประชาชน”อ่านข่าวเพิ่มเติม: สถาบันวิจัยกล้วยไต้หวัน ผลักดันการแปรรูปผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ จากกล้วยดิบ เพื่อเพิ่มมูลค่า
ตามข้อมูลจาก “โรงพยาบาลเพชรเวช” อันตรายที่มาจากอาหารสำเร็จรูปแช่แข็ง มีดังนี้1. ในเนื้อสัตว์ และอาหารทะเล จะมีการเคลือบสารสารฟอสเฟตก่อนนำมาแช่แข็ง เพื่อป้องกันกลิ่นเหม็นหืน หากมีสารตัวนี้มาก อาจก่อให้เกิดอาการแพ้ ระคายเคืองต่อผิวหนังได้2. อาหารแปรรูปแช่แข็งมักใส่สารกันบูด หากได้รับในปริมาณมาก จะเกิดอาการอาหารเป็นพิษ ท้องเสีย หรือถ้าได้รับสารกันบูด เป็นเวลานานๆ จะเกิดสารพิษสะสม ส่งผลให้เกิดโรคมะเร็งได้3. อาหารระเบิดในไมโครเวฟ ถ้าภาชนะไม่สามารถทนความร้อน เมื่ออุ่นในไมโครเวฟจะทำให้เกิดการไหม้ได้ หรือหากไม่มีการระบายไอน้ำขณะอุ่นร้อนในไมโครเวฟ อาจะจะเกิดการระเบิดได้เช่นกัน4. สารอาหารไม่ครบถ้วน อาหารแปรรูปแช่แข็งจะลดคุณค่าของสารอาหารประเภท เนื้อสัตว์ สามารถสังเกตได้จากสี เช่น เนื้อหมู เนื้อวัว จากสีแดง จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลอ่านข่าวเพิ่มเติม: ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่แซวกันสนั่นโซเชียล ! ป้ายสีแดงหน้าร้านค้า อีกหนึ่งเรื่องตลกๆ ในไต้หวันตามข้อมูลจาก “โรงพยาบาลเพชรเวช” เคล็ดลับในการบริโภคอาหารสำเร็จรูปแช่แข็ง มีดังนี้เลือกภาชนะที่ไม่เสื่อมสภาพ ไม่มีรอยรั่ว ฉีกขาด สังเกตที่สลากจะมีเขียน ไมโครเวฟเอเบิล (Microwaveabel) หรือไมโครเวฟ เซฟ (Microwave save) ภาชนะที่ผ่านการใช้ไมโครเวฟแล้ว ไม่ควรนำกลับมาใช้ซ้ำอีก เพราะ จะมีสารตกค้างจากภาชนะ ก่อให้เกิดโรคมะเร็งได้ ในระหว่างที่ทำการอุ่นจะต้องไม่ลืมเจาะรูแผ่นพลาสติกระบายไอน้ำ หากไม่เจาะรูระบายไอน้ำอาหารที่กำลังทำการอุ่นในไมโครเวฟ จะเกิดการระเบิดเป็นอันตรายได้ ฉลากจะต้องบอกข้อมูลทางโภชนาการ และข้อมูลต่างๆอย่างละเอียด เช่น วันผลิต วันหมดอายุ วิธีการบริโภค ส่วนประกอบของอาหาร เป็นต้น การเลือกเมนูอาหารที่มีประโยชน์ ครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะเมนูผัก หรือเนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมันอย่างไรก็ตาม อาหารสำเร็จรูปแช่แข็ง เป็นทางเลือกในการรับประทานอาหารของผู้ที่เร่งรีบ มีเวลาจำกัด เพราะมีความสะดวก รวดเร็ว สามารถหาซื้อ และทำรับประทานเองได้ง่าย หากมีความจำเป็นที่จะต้องบริโภคอาหารสำเร็จรูป ควรที่จะรับประทานอาหารสดควบคู่กัน เพื่อที่จะได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน และดื่มน้ำเพื่อขับสารที่อยู่ในอาหารสำเร็จรูปแช่แข็งออกทางปัสสาวะ ไม่ให้เกิดสารพิษสะสมในร่างกายอ่านข่าวเพิ่มเติม: สถาบันวิจัยกล้วยไต้หวัน ผลักดันการแปรรูปผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ จากกล้วยดิบ เพื่อเพิ่มมูลค่า