ปวดหัวเรื้อรังอาจเกิดจากกล้ามเนื้อตึงเครียดเกินไป!
นพ.หลัว หยวนจิ้ง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านประสาทวิทยา จาก โรงพยาบาลเทศบาลไทเป สาขาหยางหมิง เปิดเผยว่า ในบรรดาอาการปวดหัวทั้งหมด ประมาณ 70% เป็นอาการปวดศีรษะแบบตึงเครียด (Tension-type Headache) ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจาก ความตึงเครียดของกล้ามเนื้อบางกลุ่มมากเกินไป อาการปวดหัวประเภทนี้ มักมีลักษณะปวดแบบตื้อ ๆ หรือรู้สึกถูกกดทับ และมักเกิด ทั้งสองข้างของศีรษะ บริเวณที่พบบ่อย ได้แก่ หน้าผาก ด้านหลังศีรษะ ต้นคอ และกลางศีรษะ
ในทางกลับกัน ไมเกรน (Migraine) แม้จะเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย แต่กลับพบได้เพียง 12% - 15% ของ อาการปวดศีรษะแบบปฐมภูมิ (Primary Headache) ซึ่งมักมีลักษณะ ปวดศีรษะข้างเดียวแบบตุบ ๆ และมักมีอาการร่วม เช่น คลื่นไส้ ไวต่อแสง หรือไวต่อเสียงพฤติกรรมที่ไม่ดีทำให้กล้ามเนื้อตึงเครียดและเพิ่มความรุนแรงของอาการปวดหัว (ภาพ: จัดทำโดย Heho Health)
พฤติกรรมที่ไม่ดีทำให้กล้ามเนื้อตึงเครียดและเพิ่มความรุนแรงของอาการปวดหัว
นพ.หลัว หยวนจิ้ง ระบุว่า อาการปวดศีรษะแบบตึงเครียด มักเกี่ยวข้องกับ กล้ามเนื้อบางกลุ่มที่ถูกใช้งานบ่อย เช่น:
★ กล้ามเนื้อรอบดวงตา (Orbicularis oculi) &ndash ควบคุมการหลับตา
★ กล้ามเนื้อขมับ (Temporalis) &ndash ช่วยในการเคี้ยว
★ กล้ามเนื้อท้ายทอยและหน้าผาก (Occipitofrontalis) &ndash ช่วยยกคิ้ว
★ กล้ามเนื้อสเติร์นโนไคลโดมาสตอยด์ (Sternocleidomastoid) &ndash ช่วยหมุนศีรษะและเงยหน้า
★ กล้ามเนื้อสี่เหลี่ยมคางหมูส่วนบน (Upper trapezius) &ndash ควบคุมการยกไหล่
ท่าทางที่ไม่เหมาะสม เช่น ก้มหน้าดูโทรศัพท์นาน ๆ, นอนตะแคงบนโซฟาหรือเตียง, นั่งหน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน หรือแม้แต่ นั่งโต๊ะที่สูงเกินไปจนต้องยกไหล่ขึ้น อาจทำให้กล้ามเนื้อเหล่านี้ ถูกใช้งานหนักเกินไป ส่งผลให้ อาการปวดต้นคอรุนแรงขึ้นและกระตุ้นให้เกิดอาการปวดหัวการนั่งหน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานอาจทำให้กล้ามเนื้อเหล่านี้ถูกใช้งานมากเกินไป ส่งผลให้ปวดต้นคอรุนแรงขึ้นและกระตุ้นอาการปวดหัว (ภาพ: จัดทำโดย Heho Health)
อาการปวดหัวที่ผิดปกติ ควรรีบพบแพทย์
นพ.หลัว หยวนจิ้ง แนะนำว่า อาการปวดศีรษะแบบตึงเครียดสามารถบรรเทาได้ด้วยการนวดและผ่อนคลายกล้ามเนื้อ อย่างไรก็ตาม หากอาการปวดหัว เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก หรือมีลักษณะที่แตกต่างจากอาการปวดหัวที่เคยเป็นมาก่อน และมีอาการร่วมดังต่อไปนี้ ควร รีบไปพบแพทย์ทันที:
★ ตำแหน่งของอาการปวดหัวเปลี่ยนไป
★ ความถี่ของอาการปวดเพิ่มขึ้น
★ ปวดศีรษะในระดับปานกลางถึงรุนแรง
★ อาการแย่ลงเรื่อย ๆ
★ มีอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย
ควรรีบตรวจวินิจฉัยเพื่อ คัดกรองสาเหตุที่อาจเป็นอันตราย เช่น เลือดออกในสมอง เยื่อหุ้มสมองอักเสบ หรือเนื้องอกในสมอง การ วินิจฉัยที่ถูกต้องและการรักษาอย่างเหมาะสม คือกุญแจสำคัญในการจัดการกับอาการปวดศีรษะ
บทความนี้ได้รับอนุญาตให้เผยแพร่โดย Heho Health