img
:::

ฟักทองคือผัก? นักโภชนาการเผยสารอาหารของฟักทอง, ปริมาณที่ควรรับประทาน และวิธีเก็บรักษา

การรับประทานฟักทองไม่เพียงช่วยให้โภชนาการสมดุล แต่ยังป้องกันโรคได้อีกด้วย (ภาพจาก Heho Health)
การรับประทานฟักทองไม่เพียงช่วยให้โภชนาการสมดุล แต่ยังป้องกันโรคได้อีกด้วย (ภาพจาก Heho Health)

ฟักทองไม่เพียงแค่เป็นของตกแต่ง แต่ยังเป็นวัตถุดิบที่มีคุณค่าทางโภชนาการและดีต่อสุขภาพ เหลียง เอินฉี นักโภชนาการจากโรงพยาบาลไทเปฉือจี้ กล่าวว่า ฟักทองเหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย ช่วยรักษาสมดุลทางโภชนาการและป้องกันโรค แต่ควรบริโภคในปริมาณที่เหมาะสม ฟักทองจัดอยู่ในประเภท "ธัญพืชที่ไม่ผ่านการขัดสี" อุดมไปด้วยคาร์โบไฮเดรต เบตาแคโรทีน วิตามินเอ ซี อี โพแทสเซียม และใยอาหาร ซึ่งมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ปกป้องการมองเห็น และส่งเสริมสุขภาพลำไส้ เมล็ดฟักทองยังมีแมกนีเซียมและสังกะสีที่ช่วยพัฒนาการนอนหลับและดูแลสุขภาพต่อมลูกหมากในผู้ชายการรับประทานฟักทองทั้งเปลือกและเมล็ดมีประโยชน์มากมาย (ภาพจาก Heho Health)

อย่างไรก็ตาม การบริโภคฟักทองในปริมาณมากเกินไปอาจทำให้น้ำหนักเพิ่มหรือเกิดภาวะเมตาบอลิกซินโดรมได้ แนะนำให้ใช้เนื้อฟักทองแทนข้าวหรือพาสต้าเพื่อลดการบริโภคแป้ง สำหรับเมล็ดฟักทอง ปริมาณที่แนะนำต่อวันคือ 15 กรัม (ประมาณ 30-40 เมล็ด) เพื่อหลีกเลี่ยงการได้รับไขมันมากเกินไป ซึ่งอาจเพิ่มน้ำหนักและไขมันในเลือด

เมื่อเก็บรักษาฟักทอง ควรหลีกเลี่ยงการสูญเสียความชื้น เหลียงแนะนำให้เอาไส้และเมล็ดออกจากฟักทองที่ตัดแล้ว ห่อด้วยพลาสติกแรปและเก็บไว้ในตู้เย็นเพื่อรักษาความหวานและเนื้อสัมผัส ควรบริโภคให้หมดโดยเร็ว ฟักทองไม่เพียงเหมาะสำหรับเทศกาลฮาโลวีน แต่ยังเป็นอาหารเพื่อสุขภาพที่ควรลิ้มลองตลอดปีการเก็บฟักทองไว้นานเกินไปอาจทำให้น้ำในฟักทองลดลง ส่งผลต่อความหวานและเนื้อสัมผัส (ภาพจาก Heho Health)

บทความนี้ได้รับอนุญาตจาก Heho Health

ข่าวเด่นประเด็นร้อน

:::
ข่าวล่าสุด 最新消息icon
回到頁首icon
Loading