ก่อนหน้านี้ที่มีกรณีแรงงานข้ามชาติชาวไทยเดินทางกลับประเทศจากไต้หวันและตรวจพบไวรัสโควิด-19 ก็ได้กระตุ้นความกังวลให้กับทุกสาขาอาชีพ เมื่อวันอังคารของสัปดาห์ที่แล้ว สำนักแรงงานรัฐบาลนครนิวไทเปได้ดำเนินการตรวจสอบรอบแรก โดยสถานที่เป้าหมายเป็นหอพักของบริษัทที่มีการจ้างงานแรงงานข้ามชาติ 50 คน ขึ้นไป จำนวน 39 แห่ง ภายในเขตพื้นที่รับผิดชอบ และเมื่อวานนี้ (4 ส.ค.) ได้เสร็จสิ้นการดำเนินการตรวจสอบรอบที่สอง โดยมีสถานที่เป้าหมายเป็นหอพักของบริษัทที่มีการจ้างงานแรงงานข้ามชาติ 20 คน ขึ้นไป จำนวน 66 แห่ง ซึ่งได้พยายามทุกวิถีทางเพื่อให้แน่ใจว่าแรงงานข้ามชาติจะไม่เป็นช่องโหว่ของการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค
นายเฉิน รุ่ยเจีย (陳瑞嘉) ผู้อำนวยการสำนักแรงงานนครนิวไทเปได้กล่าวในการประชุมฉุกเฉินครั้งที่ 76 เมื่อวันที่ 29 ก.ค. ที่ผ่านมาว่า เนื่องจากเกิดเหตุการณ์ที่มีแรงงานข้ามชาติชาวไทย 1 ราย เดินทางกลับประเทศจากไต้หวันและตรวจพบไวรัสโควิด-19 สำนักแรงงานจึงได้ทำการตรวจสอบโรงงานที่มีแรงงานข้ามชาติอีกครั้ง โดยเฉพาะบริษัทที่ยังขาดมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค โดยคอยติดตามและให้คำปรึกษาสำหรับการปรับปรุง และตรวจสอบอีกครั้งเพื่อว่ามีการดำเนินการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคแล้วหรือไม่เพื่อปิดกันโอกาสการแพร่เชื้อเท่าที่จะเป็นไปได้
เพื่อให้การป้องกันการแพร่ระบาดของโรคมีประสิทธิภาพมากขึ้น สำนักแรงงานนครนิวไทเปได้ส่งจดหมายไปยังบริษัทจัดหางาน 223 ราย โดยระบุว่าควรเพิ่มการประชาสัมพันธ์การป้องกันการแพร่ระบาดของโรคและการกักกันโรคสำหรับนายจ้างและแรงงานข้ามชาติเพื่อไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดแบบกลุ่ม ในส่วนของแรงงานผู้อนุบาลต่างชาติ สำนักแรงงานจะเดินทางไปเยี่ยมที่บ้านและจะนำใบปลิวเกี่ยวกับการป้องกันการแพร่ระบาดและการให้ความรู้ด้านสุขภาพ 4 ภาษา ไปมอบให้ เพื่อให้นายจ้าง ผู้อนุบาลและผู้ได้รับการดูแลได้อ่าน เพื่อไม่ให้ผู้อนุบาลต่างชาติกลายเป็นช่องโหว่ของการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค
สำนักแรงงานนครนิวไทเประบุว่า แม้ว่าการแพร่ระบาดในประเทศจะทุเลาลง แต่นายจ้างยังต้องเตือนแรงงานข้ามชาติ หากเดินทางไปยังสถานที่แออัดมีผู้คนเป็นจำนวนมากหรือใช้ระบบขนส่งมวลชน ต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยและรักษาระยะห่างทางสังคม ในขณะเดียวกันต้องช่วยสร้างแนวคิดการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคให้กับแรงงานข้ามชาติ เช่น การล้างมือบ่อยๆ การวัดอุณหภูมิร่างกาย และการฉีดสเปรย์แอลกอฮอล์ หากพบว่าแรงงานข้ามชาติมีอาการไม่สบาย เช่น มีไข้ หรือไอ ให้รีบพาไปพบแพทย์และโทรติดต่อสายด่วนป้องกันโรค 1922 หรือสายด่วนให้คำปรึกษาแรงงาน 1955 การดูแลสุขภาพของแรงงานข้ามชาติก็เป็นส่วนสำคัญในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค