ไข่ผำ หรือ Wolffia Globosa เป็นพืชน้ำขนาดจิ๋วที่กำลังได้รับความนิยม ด้วยขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางเพียง 0.5-1.5 มิลลิเมตร พบได้ตามแหล่งน้ำสะอาดในภาคเหนือและอีสานของไทย เดิมใช้เป็นอาหารพื้นบ้าน เช่น แกงอ่อม ไข่เจียว และไข่ตุ๋น แต่ปัจจุบันได้รับการยอมรับในฐานะ ซูเปอร์ฟู้ด ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง
ไข่ผำอุดมไปด้วยโปรตีนสูงถึง 43-46% มีกรดอะมิโนจำเป็นครบถ้วน เช่น ไลซีน ฟีนิลอะลานีน และลิวซีน อีกทั้งยังมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวชนิดโอเมก้า-3 และโอเมก้า-6 มากกว่าไขมันอิ่มตัวถึงสองเท่า นอกจากนี้ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน และรักษาสมดุลร่างกาย
ข้อได้เปรียบของไข่ผำในอุตสาหกรรมอาหาร
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้สนับสนุนให้ไข่ผำเป็นหนึ่งในซูเปอร์ฟู้ดของไทย ด้วยการเพาะเลี้ยงที่ใช้พื้นที่และน้ำในการผลิตน้อยกว่าเมล็ดถั่วเหลือง แต่ให้โปรตีนสูงกว่า อีกทั้งยังช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ มีส่วนช่วยลดภาวะโลกร้อน
ไข่ผำยังเป็นวัตถุดิบอาหารยอดนิยมของเชฟมิชลิน เช่น ซอสเพสโต้ พิซซ่า และสมูทตี้ นอกจากนี้ยังถูกแปรรูปเป็นลูกชิ้น ไส้กรอก และบะหมี่ ที่เหมาะสำหรับชาววีแกนและผู้ที่ต้องการอาหารแพลนต์เบส ไข่เจียวใส่ไข่ผำ
คุณประโยชน์และสารอาหารในไข่ผำ
ไข่ผำ 100 กรัม ให้พลังงานเพียง 8 แคลอรี่ อุดมไปด้วยวิตามินเอ วิตามินบี ธาตุเหล็ก และแคลเซียม มีไฟเบอร์สูงเทียบเท่ากับผัก เช่น แครอท บร็อกโคลี และผักโขม นอกจากนี้ยังมีคลอโรฟิลล์ที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยรักษาอาการท้องผูกและภาวะซีดในผู้ป่วยโรคโลหิตจาง
คำแนะนำในการบริโภค
ก่อนนำไข่ผำไปปรุงอาหารควรล้างให้สะอาดและปรุงให้สุก หลีกเลี่ยงการกินไข่ผำดิบเพื่อลดผลกระทบต่อการดูดซึมสารอาหาร
ไข่ผำ จึงถือเป็นทางเลือกโปรตีนแห่งอนาคตที่ทั้งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและตอบโจทย์ความต้องการโภชนาการอย่างยั่งยืน
อ้างอิง: advancedgreenfarm.com, flowolffia.com