อุบัติเหตุจากการเมาแล้วขับทำให้หลายครอบครัวแตกแยก ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่น่ารังเกียจที่สุดในหมู่ประชาชน จากสถิติของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทยไต้หวันระบุว่า บทลงโทษที่หนักสำหรับการเมาแล้วขับบังคับใช้เป็นเวลา 1 ปี ทำให้การเมาแล้วขับลดลง 12.83% อุบัติเหตุจากการเมาแล้วขับลดลง 3.44% และการปฏิเสธการตรวจแอลกอฮอล์ลดลง 44.82% กระทรวงมหาดไทยกล่าวว่า รัฐบาลเอาจริงกับผู้ที่เมาแล้วขับและจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อป้องกันการเมาแล้วขับ ทุกๆ เดือน สำนักงานตำรวจแห่งชาตินอกเหนือจากการวางแผนโครงการเมาไม่ขับพร้อมกันทั่วประเทศ ยังมีการบังคับใช้กฎหมายเป็นครั้งคราวเพื่อเรียกร้องให้ผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์ไม่ขับขี่
กระทรวงมหาดไทยระบุว่าเพื่อป้องกันการเมาแล้วขับ สภานิติบัญญัติได้แก้ไข "กฎข้อบังคับการจัดการจราจรทางบก" เพื่อเพิ่มบทลงโทษสำหรับการเมาแล้วขับ และบังคับใช้ นับตั้งแต่เดือนก.ค. ปี 2019 เป็นต้นมา ได้แก่ ผู้ที่ขี่รถจักรยานยนต์หรือขับรถและมีปริมาณแอลกอฮอล์มากเกินกำหนด จะเสียค่าปรับเป็นเงินระหว่าง 15,000 -120,000 เหรียญไต้หวัน ส่วนผู้โดยสารในรถคันเดียวกันอาจถูกปรับเป็นเงินระหว่าง 600 - 3,000 เหรียญไต้หวัน หากปฏิเสธการวัดปริมาณแอลกอฮอล์ 1 ครั้ง ก็อาจทำให้ถูกปรับเป็นเงิน 180,000 เหรียญไต้หวัน นอกจากนี้ สำหรับผู้ที่เมาแล้วขับรถ หลังจากทำใบขับขี่ใหม่ รถที่ขับจะถูกบังคับให้ติดเครื่องควบคุมปริมาณแอลกอฮอล์เป็นเวลา 1 ปี (ปริมาณไม่เกินกำหนดระบบจะปลดล๊อกและสตาร์ทรถได้)
จากสถิติของสำนักงานตำรวจแห่งชาติระบุว่า นับตั้งแต่มีการใช้ข้อบังคับใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. ปี 2019 จนถึงวันที่ 30 มิ.ย. ปี 2020 ซึ่งครบ 1 ปีพอดี หน่วยงานตำรวจได้ดำเนินการห้ามผู้ที่เมาแล้วขับ 85,764 กรณี ลดลง 11,006 กรณี (-12.83%) เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (1 ก.ค. ปี 2018 – 30 มิ.ย ปี 2019) และมี 50,627 กรณี ถูกดำเนินคดี ลดลง 4,669 กรณี (-8.44%) เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สำหรับผู้ที่ปฎิเสธการวัดปริมาณแอลกอฮอล์ 5,140 กรณี ลดลง 4,175 กรณี (-44.82%) เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และจำนวนผู้เสียชีวิตจากการเมาแล้วขับอยู่ที่ 5,056 คน ลดลง 174 คน (-3.44%) เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึงเห็นได้ชัดถึงผลสัมฤทธิ์ของการแก้ใขข้อกฎหมายใหม่
กระทรวงมหาดไทยกล่าวว่า เมื่อวันที่ 13 ส.ค.ที่ผ่านมา นายซู่ กั๋วหย่ง (徐國勇) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยยังตงเรียกร้องให้หน่วยงานตำรวจเพิ่มการห้ามผู้ที่เมาแล้วขับตามสถานที่ท่องเที่ยวที่เสี่ยงต่อการเมาแล้วขับหรือวันหยุดติดต่อกันในแต่ละเทศกาล รวมทั้งเพิ่มความเข้มงวดในการลาดตระเวนเคลื่อนที่เพื่อหยุดและตรวจสอบเพื่อป้องกันอุบัติเหตุและปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ