7 มิถุนายน พบผู้ป่วยรายใหม่ 214 ราย ! "3 รายมาจากต่างประเทศโดยเข้ามาจากอินเดียและฟิลิปปินส์" ผู้ป่วยในพื้นที่ 211 ราย

ศูนย์บัญชาการแพร่ระบาดกลางประกาศพบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อ COVID-19 รายใหม่ 214 ราย เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน โดยมีผู้ป่วยในพื้นที่จำนวน 211ราย และเข้ามาจากต่างประเทศ 3 ราย ผู้เสียชีวิตรายใหม่ 26 รายจากผู้ป่วยยืนยันแล้ว

จากข้อมูลของศูนย์บัญชาการ พบว่ามีผู้ป่วยในท้องถิ่นรายใหม่ 211 ราย ในวันนี้ เป็นชาย 106 ราย และหญิง 105 ราย อายุระหว่าง 10 ถึง 90 ปี โดยวันที่เริ่มมีอาการคือระหว่างวันที่ 21 พ.ค. ถึง 6 มิ.ย. (พ.ศ. 2564) จากพื้นที่ที่มีจำนวนเยอะที่สุดคือนิวไทเป 82 ราย รองลงมาคือเมืองไทเปจำนวน 60 ราย มณฑลเหมียวลี่ 45 ราย มณฑลจังฮั้ว 8 ราย เมืองซินจู๋ เมืองเถาหยวน มณฑลเผิงหู๋ และเมืองจีหลงที่ละ 3 ราย มณฑลอี๋หลาน มณฑลเจียอี้ มณฑลผิงตง และมณฑลซินจู๋ ที่ละ 1 ราย  ในบรรดา 69 รายในมณฑลและเมืองนอกเขตซวงเป่ย  รู้จักแหล่งที่มาของการติดเชื้อ 64 ราย  1 รายที่มีประวัติการทำกิจกรรมในเขตว่านหัว 4รายไม่ทราบสาเหตุ  การสอบสวนโรคระบาดที่เกี่ยวข้องกำลังดำเนินอยู่

ศูนย์บัญชาการอธิบายว่าวันนี้มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 26 ราย โดยเป็นชาย 20 รายและหญิง 6 ราย อายุระหว่าง 50-90 ปี โดยเริ่มมีอาการระหว่างวันที่ 10 พ.ค. ถึง 2 มิ.ย. ได้รับการวินิจฉัยตั้งแต่วันที่ 12 พ.ค. ถึง 5 มิ.ย. และเสียชีวิตระหว่างวันที่ 31 พ.ค ถึง 6 มิ.ย.

 อ่านข่าวเพิ่มเติม : ฝ่ายบริหารประเทศตัดสินใจให้เงินอุดหนุนคนละ 1หมื่นหยวน กับครอบครัวที่มีเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี และเด็กพิเศษ

ศูนย์บัญชาการระบุว่ามีการย้ายถิ่นฐานใหม่ 3 รายในวันนี้ เคสที่ 11500 และ 11501 เป็นชายชาวฟิลิปปินส์อายุ 40 และ 20 ปีตามลำดับ มาทำงานที่ไต้หวันในวันที่ 15 พ.ค. โดยถือรายงานผลการทดสอบเป็นลบภายใน 3 วันก่อนขึ้นเครื่อง และไม่แสดงอาการใดๆ ในช่วงเวลาที่อยู่ในไต้หวัน เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. เฝ้าระวังสุขภาพด้วยตนเองก่อนจะสิ้นสุดระยะเวลา และได้รับการยืนยันวินิจฉัยในวันนี้ เคสที่ 11052 เป็นชายไต้หวันอายุ 40 ปี เขาเดินทางกลับจากอินเดียเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน และมีรายงานเชิงลบภายใน 3 วันก่อนบิน เขาไม่แสดงอาการใดๆเมื่อเข้าประเทศ หลังจากเข้าประเทศเขาถูกกักตัวที่ ที่สถานีกักกันและส่งไปตรวจสอบ ซึ่งได้รับการวินิจฉัยในวันนี้

จากสถิติของศูนย์บัญชาการ จนถึงขณะนี้มีรายงานผู้ป่วยโรคปอดอักเสบจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จำนวน 671,160 ราย (ไม่รวมผู้ป่วย 648,841 ราย) ผู้ป่วยยืนยัน 11,491 ราย จากการเข้ามาจากต่างประเทศจำนวน 1,148 ราย ผู้ป่วยในพื้นที่ 10,290 ราย  กองเรือดันมู 36 ราย ติดเชื้อบนเครื่องบิน 2 ราย ไม่ทราบสาเหตุ 1 ราย กำลังตรวจสอบ 14 ราย ; นอกจากนี้อีก 49 ราย (เคสที่ 10772, 10826, 10829, 11143, 11144, 11146, 11147, 11148, 11149, 11155, 11177, 11179, 11184, 11190, 11193, 11194, 11225, 11227, 11228, 11229, 11230) ถูกลบออกเป็นตัวเลขที่ว่างเปล่า เสียชีวิต 286 ราย ในเคสที่ได้รับการยืนยันแล้ว

ศูนย์บัญชาการยังประกาศด้วยว่า เพื่อตอบสนองต่อความรุนแรงอย่างต่อเนื่องของโรคระบาด การแจ้งเตือนระดับ3 ได้ขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 28 มิถุนายน ขอให้ประชาชนทั่วประเทศและรัฐบาลพยายามอย่างต่อเนื่องในการปกป้องแนวป้องกันของชุมชนอย่างเคร่งครัด โดยมีมาตรการที่เกี่ยวข้องดังนี้ :

1. ประชาชนควรสวมหน้ากากตลอดเวลาเมื่อออกไปข้างนอก หากฝ่าฝืนจะไม่มีการประนีประนอมโดยจะลงโทษผู้กระทำผิดทันที
2. สถานที่พักผ่อนหย่อนใจและสถานบันเทิงที่ควรปิด หลังจากประกาศจะถูกตรวจสอบอย่างเข้มงวด ธุรกิจที่ฝ่าฝืน ผู้ปฏิบัติงานในสถานที่ ผู้บริโภค และฝ่ายต่างๆ จะถูกลงโทษแยกกันตามกฎหมาย
3. อุตสาหกรรมร้านอาหารให้ฝช้บริการซื้อกลับบ้าน ร้านค้าและซูเปอร์มาร์เก็ตต้องเพิ่มการควบคุมฝูงชน และเรียกร้องให้ประชาชน ซื้อให้เพียงพอในคราวเดียว
4. ไม่จัดงานแต่งงานและงานศพ
5. งดการชุมนุมทางศาสนา และปิดใช้บริการสถานที่ทางศาสนาชั่วคราว
6. ปิดสถานที่พักผ่อนหย่อนใจและสถานบันเทิง สถานที่สำหรับชมนิทรรศการ รวมถึงสถานที่การศึกษาและการเรียนรู้
7. งดการสังสรรค์ในครอบครัวที่มีคนในบ้านมากกว่า 5 คน และนอกบ้านมากกว่า 10 คน (ไม่นับคนที่อาศัยอยู่ร่วมกัน) และการรวมตัวทางสังคม หลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหว กิจกรรม หรือการชุมนุมที่ไม่จำเป็น
8. เฝ้าระวังตนเอง พบแพทย์ทันทีหากมีอาการ
9. สถานที่ประกอบธุรกิจและหน่วยงานสาธารณะ (สถาบัน) ควรดำเนินการควบคุมฝูงชน สวมหน้ากาก และรักษาระยะห่างทางสังคม
10. สถานที่ทำงานควรปฏิบัติตามกฎระเบียบการป้องกันการแพร่ระบาด สำหรับการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง และดำเนินการจัดการสุขอนามัยส่วนบุคคล ในที่ทำงาน ริเริ่มการดำเนินการตามมาตรการตอบสนองของบริษัทอย่างต่อเนื่อง เช่นสำนักงานระยะไกลและ ยืดหยุ่นชั่วโมงการทำงาน
11. เสริมกำลังการกำจัดพื้นที่สาธารณะและการขนส่งสาธารณะ

ศูนย์บัญชาการอธิบายว่า ในการต่อต้านการติดเชื้อในโรงพยาบาลและสถาบันดูแลระยะยาวล่าสุด ศูนย์บัญชาการได้ขอให้โรงพยาบาลทั่วประเทศหยุดเปิดให้เข้าเยี่ยม (ยกเว้นกรณีพิเศษ) และให้อยู่เฝ้าไข้ได้แค่1คนเท่านั้น จนกว่าจะมีการลดระดับการแจ้งเตือน สำหรับสถาบันดูแลระยะยาว นอกจากการระงับการเปิดเยี่ยมผู้พักอาศัยของสถาบันแล้ว ยังต้องมีสถานการณ์พิเศษที่ไม่จำเป็นด้วย พยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้ผู้อยู่อาศัยออกนอกพื้นที่ และเสริมสร้างการจัดการควบคุมการเข้าออกเพื่อหลีกเลี่ยงคนที่ไม่จำเป็น ในขณะเดียวกันยังคงใช้พนักงานรายวัน โดยมีการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายและสุขภาพของผู้ติดตาม เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของ COVID-19