ในสังคมปัจจุบัน ปัญหาการกลั่นแกล้งยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมของโรงเรียน เหตุการณ์ล่าสุดที่นักเรียนคนหนึ่งตัดสินใจจบชีวิตตัวเองเพราะการถูกกลั่นแกล้งได้สร้างความสะเทือนใจให้กับผู้คนจำนวนมาก ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาชี้ให้เห็นว่าการกลั่นแกล้งไม่ได้จำกัดแค่ความรุนแรงทางร่างกาย แต่ยังครอบคลุมพฤติกรรมการข่มเหงในหลายรูปแบบ การเข้าใจถึงรูปแบบเหล่านี้สามารถช่วยเราในการปกป้องลูกหลานและทำให้พวกเขาไม่รู้สึกโดดเดี่ยวเมื่อต้องเผชิญกับปัญหา
4 รูปแบบของการกลั่นแกล้ง
ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาเน้นย้ำว่าการกลั่นแกล้งมีหลายรูปแบบ ซึ่งสามารถแบ่งได้เป็น 4 ประเภทหลัก:
- การกลั่นแกล้งทางคำพูด
การกลั่นแกล้งประเภทนี้มักแสดงออกผ่านคำพูดที่หยาบคายหรือคำพูดที่เป็นการดูถูก เช่น "เธอน่าเกลียดมาก!" คำพูดที่เจ็บปวดเหล่านี้สามารถส่งผลกระทบต่อจิตใจของเด็กในระยะยาว เมื่อเด็กแสดงพฤติกรรมการถอนตัวหรือมีอารมณ์เศร้าหมอง พ่อแม่ควรเริ่มต้นพูดคุยกับพวกเขาและสอนให้พวกเขารับมือด้วยความสงบ เช่น การพูดว่า "ขอเวลาหน่อยเพื่อให้ฉันสงบสติอารมณ์" หรือ "ตอนนี้ฉันไม่อยากพูดเรื่องนี้"
- การกลั่นแกล้งทางร่างกาย
การกลั่นแกล้งทางร่างกายรวมถึงการโจมตีทางร่างกายโดยตรง เช่น การชกต่อย เตะ หรือผลัก การกลั่นแกล้งประเภทนี้มักจะสังเกตเห็นได้ง่าย แต่บางครั้งเด็กอาจไม่กล้าแสดงออก พ่อแม่ควรสังเกตว่าเด็กมีบาดแผลหรือเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์หรือไม่ และติดต่อโรงเรียนเพื่อหาทางแก้ไขทันที
- การกลั่นแกล้งทางความสัมพันธ์
การกลั่นแกล้งประเภทนี้มักแสดงออกผ่านการกีดกันหรือการทำให้เด็กถูกโดดเดี่ยวจากกลุ่ม พ่อแม่ควรพูดคุยกับลูกเกี่ยวกับสถานการณ์ทางสังคมของพวกเขาอย่างสม่ำเสมอ และสังเกตว่าพวกเขามีความรู้สึกด้อยค่า หรือความรู้สึกโดดเดี่ยวหรือไม่ การช่วยให้เด็กขยายวงเพื่อนและพัฒนาความสนใจใหม่ๆ สามารถลดโอกาสการเกิดปัญหาในรูปแบบนี้ได้
- การกลั่นแกล้งทางออนไลน์
ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า การกลั่นแกล้งทางออนไลน์กลายเป็นรูปแบบใหม่ของการข่มเหง ซึ่งมักเกิดขึ้นผ่านโซเชียลมีเดียหรืออีเมล โดยการเผยแพร่คำโกหกหรือคำพูดที่เป็นอันตราย พ่อแม่ควรสอนลูกให้มีความรับผิดชอบต่อคำพูดที่ใช้บนโลกออนไลน์ และกระตุ้นให้พวกเขารักษาความสงบเมื่อเผชิญกับการกลั่นแกล้งทางออนไลน์ และรายงานเหตุการณ์ต่อโรงเรียนเมื่อจำเป็น
การสร้างความมั่นใจและการสื่อสารที่ดี
ผู้เชี่ยวชาญเน้นว่าการกลั่นแกล้งสามารถส่งผลกระทบระยะยาวต่อสุขภาพจิตและร่างกายของเด็ก สิ่งที่พ่อแม่สามารถทำได้ดีที่สุดคือการเสริมสร้างความมั่นใจและความเป็นอิสระให้กับลูก พร้อมทั้งรักษาการสื่อสารที่ดีในครอบครัว การพูดคุยกับลูกอย่างสม่ำเสมอ และทำให้พวกเขารู้ว่าพ่อแม่จะอยู่เคียงข้างไม่ว่าเขาจะเผชิญกับอะไร จะเป็นพลังสำคัญในการป้องกันการถูกกลั่นแกล้ง
การป้องกันและการสนับสนุน
การเข้าใจรูปแบบของการกลั่นแกล้งและการพูดคุยกับลูกอย่างใกล้ชิดเป็นความรับผิดชอบที่สำคัญของพ่อแม่ทุกคน มาร่วมมือกันสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและมีสุขภาพดีสำหรับเด็กๆ เพื่อให้พวกเขาสามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงและไม่โดดเดี่ยวเมื่อเผชิญกับปัญหาการปกป้องที่ดีที่สุดที่พ่อแม่สามารถให้ได้คือการเสริมสร้างความมั่นใจและความเป็นอิสระของลูก พร้อมทั้งรักษาการสื่อสารที่ดีระหว่างพ่อแม่และลูก (ภาพจาก Liberty Health Net)
ผ่านความรู้และวิธีการเหล่านี้ เราสามารถสร้างพื้นฐานที่มั่นคงสำหรับอนาคตที่สดใสของลูกหลานของเรา
ที่มา: เครือข่ายสุขภาพเสรี