按下ENTER到主內容區
:::
ข่าวล่าสุด 最新消息icon
:::

โรคผิวหนังอักเสบภูมิแพ้รุนแรงกระทบชีวิตประจำวัน ยาเม็ดชีวภาพขนาดเล็กแบบมุ่งเป้าช่วยเปิดความหวังใหม่ในการรักษา

คาดว่ามีประชากรประมาณ 2 ล้านคนในไต้หวันที่ทุกข์ทรมานจากโรคผิวหนังอักเสบภูมิแพ้ (ภาพจาก Heho Health)
คาดว่ามีประชากรประมาณ 2 ล้านคนในไต้หวันที่ทุกข์ทรมานจากโรคผิวหนังอักเสบภูมิแพ้ (ภาพจาก Heho Health)

เมื่อสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง ถือเป็น "สัญญาณเตือนภัย" สำหรับผู้ป่วยโรคผิวหนังภูมิแพ้ อาการต่างๆ เช่น ผิวหนังแดง บวม ผื่น คันรุนแรง และลอกเป็นขุย อาจเกิดขึ้นได้ ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตอย่างมาก

นักเรียนวัย 17 ปี น้องเซี่ย ได้รับผลกระทบจากโรคผิวหนังภูมิแพ้ตั้งแต่เกิด โดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่ฤดูเปลี่ยนผ่าน ผิวของเขาจะลอกอย่างรุนแรง อาการคันในตอนกลางคืนทำให้เขานอนไม่หลับ ส่งผลให้มีปัญหาในการเรียนระหว่างวัน นอกจากนี้ การเกายังทำให้เกิดบาดแผลและเลือดออก ทำให้ครอบครัวรู้สึกเป็นกังวลอย่างมาก ในปีนี้ ไต้หวันได้อนุมัติยารับประทานชนิดใหม่ 2 ชนิด ที่สามารถรักษาอาการอักเสบได้อย่างแม่นยำ ให้ผลการควบคุมอาการที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ป่วย

โรคผิวหนังภูมิแพ้ไม่ใช่แค่ปัญหาผิวหนัง แต่อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานและโรคหัวใจ

แพทย์ระบุว่า โรคผิวหนังภูมิแพ้เป็นโรคเรื้อรังที่เกิดจากปัจจัยทางพันธุกรรม ภูมิคุ้มกัน และสิ่งแวดล้อมที่ส่งผลกระทบต่อร่างกาย ซึ่งก่อให้เกิด "ภาวะภูมิคุ้มกันผิดปกติ" ในไต้หวัน 37% ของผู้ป่วยที่มีอายุตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป มีอาการปานกลางถึงรุนแรงและต้องใช้ยาควบคุมอาการ อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยจำนวนมากไม่กล้ารักษา เนื่องจากผลข้างเคียงของยา เช่น สเตียรอยด์ หรือขาดความเข้าใจเกี่ยวกับโรค ทำให้เกิดอาการกำเริบซ้ำๆ

การศึกษาพบว่า ภาวะอักเสบเรื้อรังอาจส่งผลต่อสุขภาพหัวใจและระบบเผาผลาญน้ำตาลในเลือด จากฐานข้อมูลประกันสุขภาพของไต้หวัน พบว่าผู้ป่วยโรคผิวหนังภูมิแพ้มีความเสี่ยงเป็นเบาหวาน สูงกว่าคนทั่วไปถึง 46% และผู้ป่วยที่มีอาการปานกลางถึงรุนแรงมีความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจขาดเลือดเพิ่มขึ้น 31-36% นอกจากนี้ ผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงมีความเสี่ยงเป็นโรคหลอดเลือดสมอง สูงขึ้นถึง 34% ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการรักษาอย่างต่อเนื่องโรคผิวหนังอักเสบภูมิแพ้เป็นโรคผิวหนังเรื้อรังที่เกิดซ้ำและเกี่ยวข้องกับอาการแพ้ (ภาพจาก Heho Health)

ยาโมเลกุลขนาดเล็กแบบมุ่งเป้ารุ่นใหม่ ควบคุมอาการได้แม่นยำ

การรักษาโรคผิวหนังภูมิแพ้แบบดั้งเดิมมักใช้ สเตียรอยด์และยากดภูมิคุ้มกัน แต่การใช้เป็นเวลานานอาจส่งผลต่อการทำงานของตับและไต เพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ และอาจเกิดอาการอักเสบซ้ำหลังหยุดยา ผู้ป่วยจำนวนมากจึงลังเลที่จะใช้ยาเป็นระยะยาว ส่งผลให้โรคกำเริบต่อเนื่อง ทำให้ตกอยู่ในวงจรอุบาทว์ "คัน-เกา-คันมากขึ้น"

ปัจจุบัน วงการแพทย์ได้ทำการศึกษากลไกการเกิดโรคผิวหนังภูมิแพ้อย่างลึกซึ้ง พบว่า สารเคมีบางชนิดในร่างกายเป็นตัวกระตุ้นอาการ จึงนำไปสู่การพัฒนายาชีวภาพและยาโมเลกุลขนาดเล็กที่มุ่งเป้าไปที่สารเหล่านี้ โดยในปีนี้ ไต้หวันได้อนุมัติ ยาโมเลกุลขนาดเล็กแบบรับประทานชนิดใหม่ 2 ชนิด ที่สามารถช่วยลดอาการคันได้อย่างรวดเร็วและปรับปรุงสภาพผิวโดยมีผลข้างเคียงต่ำ ทำให้ผู้ป่วยรับการรักษาได้ง่ายขึ้นโรคผิวหนังอักเสบภูมิแพ้ยังมีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง, ภูมิแพ้อาหาร, โรคหืด และโรคจมูกอักเสบเรื้อรัง (ภาพจาก Heho Health)

รักษาอาการอย่างต่อเนื่อง ให้ผู้ป่วยกลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดี

น้องเซี่ยเริ่มใช้ยารับประทานตัวใหม่ และ อาการคันลดลงอย่างเห็นได้ชัดภายในหนึ่งสัปดาห์ หลังจากผ่านไป 4 สัปดาห์ ผิวหนังของเขาดีขึ้นมาก คุณภาพการนอนหลับดีขึ้น ส่งผลให้ความมั่นใจเพิ่มขึ้น และผลการเรียนก็ดีขึ้นตามลำดับ ขณะนี้เขาได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่องมานานกว่าหนึ่งปี

แพทย์เน้นย้ำว่า การรักษาโรคผิวหนังภูมิแพ้กำลังก้าวเข้าสู่ยุคของการรักษาแบบเฉพาะเจาะจง ผู้ป่วยควรรับประทานยาตามแผนการรักษาเพื่อป้องกันการกลับมากำเริบของโรค สำหรับผู้ที่กังวลเกี่ยวกับการเดินทางไปโรงพยาบาลเนื่องจากสถานการณ์โรคระบาด ยารับประทานสามารถจ่ายยาอย่างต่อเนื่อง เพื่อหลีกเลี่ยงการเดินทางไปพบแพทย์บ่อยๆ

นอกจากนี้ ผู้ป่วยควรดูแลสิ่งแวดล้อมรอบตัวให้สะอาด มีเวลาพักผ่อนที่เพียงพอ และงดสูบบุหรี่ หากผู้ป่วยมีโรคหัวใจและหลอดเลือดร่วมด้วย ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาแนวทางการรักษาที่เหมาะสมที่สุดเพื่อลดความเสี่ยงของโรคร่วมอื่นๆ

ข่าวเด่นประเด็นร้อน

回到頁首icon
Loading