Q:ชาวต่างชาติที่มีถิ่นพำนักอยู่ในสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) สามารถหักรายการใดจากรายได้รวมเมื่อคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้บ้าง?
A: ชาวต่างชาติที่ถือว่าเป็นผู้มีถิ่นพำนักในไต้หวันสามารถหักรายการต่าง ๆ ดังต่อไปนี้จากรายได้รวม: จำนวนเงินยกเว้นภาษี (Exemption), ค่าลดหย่อน (Deduction) และ ส่วนต่างค่าครองชีพพื้นฐาน (Basic Living Expense Difference)
- จำนวนเงินยกเว้นภาษี:
สำหรับปีภาษี 113 (ค.ศ. 2024) ผู้เสียภาษี, คู่สมรส และผู้ที่อยู่ในอุปการะสามารถยกเว้นภาษีได้คนละ 97,000 เหรียญไต้หวัน หากบุคคลดังกล่าวมีอายุครบ 70 ปีขึ้นไป สามารถยกเว้นได้คนละ 145,500 เหรียญไต้หวัน - ค่าลดหย่อน:
ค่าลดหย่อนแบ่งเป็น 2 ประเภท:
ประเภทที่ 1 &ndash ค่าลดหย่อนทั่วไป:
แบ่งเป็น 2 แบบ ได้แก่
แบบมาตรฐาน (Standard Deduction):
- ผู้โสด: 131,000 เหรียญไต้หวัน
- คู่สมรสยื่นแบบร่วมกัน: 262,000 เหรียญไต้หวัน
แบบแยกรายการ (Itemized Deduction): รวมรายการต่อไปนี้:
A. การบริจาค
B. ค่าเบี้ยประกัน
C. ค่ารักษาพยาบาลและคลอดบุตร
D. ความเสียหายจากภัยพิบัติ
E. ดอกเบี้ยเงินกู้ซื้อบ้านเพื่ออยู่อาศัยส่วนตัว
ประเภทที่ 2 &ndash ค่าลดหย่อนพิเศษ (Special Deduction) มีทั้งหมด 7 รายการ ได้แก่:
A. ขาดทุนจากการซื้อขายทรัพย์สิน (ไม่เกินรายได้จากการซื้อขาย)
B. ดอกเบี้ยเงินฝากหรือการลงทุน (ไม่เกิน 270,000 เหรียญไต้หวันต่อครัวเรือน)
C. ผู้พิการ (ลดหย่อนได้คนละ 218,000 เหรียญไต้หวัน)
D. ค่าเล่าเรียนบุตร (ลดหย่อนได้สูงสุด 25,000 เหรียญไต้หวันต่อคน)
E. ค่าใช้จ่ายสำหรับเด็กก่อนวัยเรียน
F. การดูแลระยะยาว (ลดหย่อนได้คนละ 120,000 เหรียญไต้หวันต่อปี)
G. ค่าเช่าบ้าน
- ส่วนต่างค่าครองชีพพื้นฐาน:
สำหรับปีภาษี 113 ค่าครองชีพพื้นฐานต่อคนคือ 210,000 เหรียญไต้หวัน ให้นำจำนวนนี้คูณกับจำนวนผู้เสียภาษี คู่สมรส และผู้ที่อยู่ในอุปการะ รวมเป็นยอดรวมของค่าครองชีพพื้นฐาน หากยอดนี้มากกว่าผลรวมของการยกเว้นภาษี, ค่าลดหย่อนมาตรฐานหรือแบบแยกรายการ (เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง), และค่าลดหย่อนพิเศษทั้งหลาย จะสามารถหักส่วนต่างนั้นออกจากรายได้รวมได้
Q:ถ้าชาวต่างชาติเป็น &ldquoผู้ไม่มีถิ่นพำนักในไต้หวัน&rdquo จะสามารถหักยกเว้นภาษี ค่าลดหย่อน หรือส่วนต่างค่าครองชีพได้หรือไม่?
A: ไม่สามารถหักได้ ไม่ว่าจำนวนเงินยกเว้นภาษี ค่าลดหย่อน หรือส่วนต่างค่าครองชีพค่าลดหย่อนพิเศษมีทั้งหมด 7 รายการ (ภาพ / จากเฟซบุ๊กกระทรวงการคลัง)
Q:การระบุชื่อคู่สมรสหรือผู้ที่อยู่ในอุปการะ ต้องแนบเอกสารอะไรบ้าง?
A: ต้องแนบเอกสารดังต่อไปนี้:
★ คู่สมรส:
- ข้อมูลส่วนตัว (เช่น สำเนาหนังสือเดินทาง สูติบัตร หรือบัตรพำนักอาศัย)
- เอกสารพิสูจน์ความสัมพันธ์ (ใบสมรสหรือเอกสารที่ได้รับการรับรองโดยหน่วยงานทางการ/สถานทูต)
- เอกสารยืนยันการมีชีวิตอยู่ (เช่น หนังสือรับรองจากทางการหรือทะเบียนบ้าน)
★ บิดา/มารดาหรือผู้สูงอายุสายตรง (อายุ 60 ปีขึ้นไป หรืออายุน้อยกว่า 60 ปีแต่ไม่มีความสามารถในการทำงาน):
- ข้อมูลส่วนตัว
- เอกสารพิสูจน์ความสัมพันธ์
- เอกสารแสดงการอุปการะ (เช่น หลักฐานการโอนเงินหรือหนังสือรับรอง)
- เอกสารยืนยันการมีชีวิตอยู่
- หากอายุต่ำกว่า 60 ปี ต้องแนบใบรับรองทางการแพทย์หรือหนังสือรับรองจากหน่วยงานทางการท้องถิ่น
★ บุตรหรือพี่น้อง (ต้องเป็นผู้เยาว์ หรือหากเป็นผู้ใหญ่ต้องกำลังศึกษา มีความพิการ หรือไม่มีความสามารถทำงาน):
- ข้อมูลส่วนตัว
- เอกสารพิสูจน์ความสัมพันธ์
- เอกสารแสดงการอุปการะ
- เอกสารยืนยันการมีชีวิตอยู่
- หากเป็นนักเรียนต้องแนบเอกสารยืนยันสถานะการศึกษา เช่น บัตรนักเรียน หนังสือรับรองการเรียน หรือใบเสร็จค่าเล่าเรียน
- หากมีความพิการ ให้แนบสำเนาบัตรประจำตัวคนพิการ
- หากไม่มีความสามารถทำงาน ต้องแนบใบรับรองแพทย์หรือเอกสารจากหน่วยงานทางการ
★ ญาติอื่น ๆ (ตามประมวลกฎหมายแพ่ง มาตรา 1114 วรรค 4 และมาตรา 1123 วรรค 3 ต้องอาศัยอยู่ร่วมกับผู้เสียภาษีในไต้หวันและอยู่ในอุปการะ):
- ข้อมูลส่วนตัว
- เอกสารพิสูจน์ความสัมพันธ์
- เอกสารแสดงการอุปการะ
- หากยังไม่บรรลุนิติภาวะและบิดามารดาเป็นคนไต้หวัน ต้องแนบบัตรประชาชนของบิดามารดา
- หากยังศึกษาอยู่ ให้แนบหลักฐานทางการศึกษา
- หากมีความพิการหรือไม่มีความสามารถทำงาน ให้แนบใบรับรองทางการ
- เอกสารยืนยันการอาศัยอยู่ร่วมกัน (ทะเบียนบ้านหรือเอกสารรับรองจากหน่วยงานท้องถิ่น)
 
Q:ถ้าคู่สมรสหรือผู้ที่อยู่ในอุปการะของชาวต่างชาติไม่อาศัยอยู่ในไต้หวัน จะสามารถหักยกเว้นภาษีได้หรือไม่?
A: ถ้าชาวต่างชาติมีถิ่นพำนักในไต้หวัน คู่สมรสหรือผู้ที่อยู่ในอุปการะ (ไม่รวมญาติอื่น ๆ เช่น ลุง หลาน ฯลฯ) ที่ไม่ได้อยู่ในไต้หวันก็สามารถยื่นขอยกเว้นภาษีได้ หาก สามารถแสดงเอกสารหลักฐานตามที่กล่าวข้างต้นได้ครบถ้วน