img
:::

‘Grow tea.studio’ คาเฟ่ชาไต้หวัน ชาญี่ปุ่น และมัทฉะแบบสโลว์บาร์ ขุมทรัพย์หลังเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ภายในย่านสุทธิสาร

‘Grow tea.studio’ คาเฟ่ชาไต้หวัน ชาญี่ปุ่น และมัทฉะแบบสโลว์บาร์ ขุมทรัพย์หลังเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ภายในย่านสุทธิสาร ภาพจาก/THE STANDARD
‘Grow tea.studio’ คาเฟ่ชาไต้หวัน ชาญี่ปุ่น และมัทฉะแบบสโลว์บาร์ ขุมทรัพย์หลังเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ภายในย่านสุทธิสาร ภาพจาก/THE STANDARD

ตามรายงานข่าวของ THE STANDARD เพราะการอยากทำธุรกิจจากที่สิ่งที่ชื่นชอบร่วมกัน เป็นจุดกำเนิดให้ฟู้ดสไตลิสต์อย่าง ธนพงษ์ พิสิฐสิฬษ์ (ประทัด), ฟู้ดดีไซเนอร์ และทีมาสเตอร์อย่าง นภัครธรณ์ ศรีไทรคู (บะหมี่) และ ณัฐวรา ธวบุรี (กิ๊ฟฟี่) สถาปนิกซึ่งเคยมีประสบการณ์การดูแลด้านการจัดการ และการปฏิบัติงานในคาเฟ่มาก่อน ได้ตัดสินใจเปิดคาเฟ่ชาหลังหนึ่งขึ้นมาด้วยกัน ภายใต้ชื่อร้านอย่าง ‘Grow tea.studio’ หรือที่แปลว่า ‘เจริญเติบโต’

‘Grow tea.studio’ คือคาเฟ่ชาไต้หวัน ชาญี่ปุ่น และมัทฉะแบบสโลว์บาร์ ขุมทรัพย์หลังเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ภายในย่านสุทธิสาร โดยมีโลโก้ประจำร้านคือ ‘แสงที่เปล่งประกาย’ มาจากความหมายของร้าน รวมไปถึงจุดประสงค์ที่อยากให้ทุกคนนั้นเจริญเติบโตทั้งกาย และใจไปด้วยกัน นอกจากนี้ก็ยังมีอีกหนึ่งโลโก้ที่แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในทุกรายละเอียดของการชงชา อย่าง ‘grow°’ ชื่อของร้านที่มีองศาน้ำร้อนห้อยติดมาอีกด้วย

อ่านข่าวเพิ่มเติม: ต้องระวัง! แรงงานต่างชาติจะ “ถูกเพิกถอน” ใบอนุญาตการจ้างงานหากฝ่าฝืนกฎระเบียบการป้องกัน “โรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร”

‘Grow tea.studio’ คาเฟ่ชาไต้หวัน ชาญี่ปุ่น และมัทฉะแบบสโลว์บาร์ ขุมทรัพย์หลังเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ภายในย่านสุทธิสาร ภาพจาก/THE STANDARD

‘Grow tea.studio’ คาเฟ่ชาไต้หวัน ชาญี่ปุ่น และมัทฉะแบบสโลว์บาร์ ขุมทรัพย์หลังเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ภายในย่านสุทธิสาร ภาพจาก/THE STANDARD

เมื่อได้ก้าวย่างเข้ามาสู่บริเวณของร้าน จะเห็นได้ว่าจุดเด่นอย่างแรกของคาเฟ่แห่งนี้ คือดีไซน์การตกแต่ง และการออกแบบที่ถูกปกคลุมไปด้วยโทนสีดำ ขาว และเอิร์ธโทน ซึ่งจะให้ความรู้สึกถึงความ Unisex และกลิ่นอายของความเท่ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากคาแรกเตอร์ของทั้ง 3 คนอย่างลงตัว

ถึงแม้ว่าสีหลักของร้านอย่างสีดำ รวมไปถึงทำเลที่ตั้งที่หลบซ่อนอยู่นั้นจะให้บรรยากาศที่สุขุม สงบ และลึกลับ แต่องค์ประกอบทั้งหมดทั้งมวลอย่างเฟอร์นิเจอร์ที่ทำมาจากไม้อัด ผนัง ไปจนถึงเพดานที่มาในรูปแบบของปูนเปลือย ก็ยังช่วยเสริมบรรยากาศที่เย็นสบาย สไตล์โฮมมี่ สร้างความประทับใจให้แก่ผู้ที่มาแวะเวียน หรือผู้ที่มานั่งจิบชายาวๆ ที่เคาน์เตอร์บาร์เล็กๆ นี้ได้เช่นกัน

ทุกๆ การตัดสินใจนั้นมีที่มา เพราะก่อนหน้าที่ทั้ง 3 คนจะตัดสินใจเปิดคาเฟ่ชาแห่งนี้ร่วมกัน ธุรกิจแรกที่ได้โผล่ขึ้นมาในหัวคือ ‘การทำโปรดักต์เพื่อสุขภาพ’

อ่านข่าวเพิ่มเติม: โรคภัยไข้เจ็บไม่แบ่งคนรวยหรือจน แรงงานไทยที่มีสิทธิประกันสังคมรับการรักษาฟรี

ดังนั้นแล้ว เมื่อสุขภาพมารวมอยู่ในศาสตร์ของชา จึงเป็นผลให้การเลือกโทนชาในร้าน จำเป็นที่จะต้องดื่มง่าย ไม่อึดอัด มีคุณภาพที่ดี เหมาะสำหรับทั้งมือใหม่ที่อยากเข้าถึงการดื่ม และศาสตร์ของชา ไปจนถึงคนรักชาทั้งหลายที่ก็อยากลองเปิดประสบการณ์การดื่มชาในรูปแบบ และการนำเสนอที่เป็นเอกลักษณ์ของทางร้านด้วยเช่นกัน โดยโทนชาที่ออกไปทางสว่างๆ นี่แหละ ที่ดูจะตอบโจทย์กับคาเฟ่แห่งนี้มากที่สุด

ขอบคุณข้อมูลจาก: THE STANDARD

มาเป็นคนแรกที่แสดงความคิดเห็น

ข่าวเด่นประเด็นร้อน

ข่าวล่าสุด 最新消息icon
回到頁首icon
Loading