ตามสถิติจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค กระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการ พบว่ามีนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่ลงทะเบียนในกรุงเทพมหานครในปีนี้จำนวน 17,802 คน ณ วันที่ 8 กันยายน อัตราการฉีดวัคซีนสองเข็มที่ควรฉีดก่อนเข้าโรงเรียนมีอัตราการครบถ้วนถึง 96.2% อย่างไรก็ตาม ยังมีเด็กจำนวน 682 คนที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนครบอย่างน้อยหนึ่งเข็ม
กรมอนามัยกรุงเทพมหานครขอเตือนผู้ปกครองให้ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเด็ก ๆ ได้รับการฉีดวัคซีน "หัด หัดเยอรมัน และคางทูม (MMR) เข็มที่ 2" และวัคซีน "คอตีบ บาดทะยัก ไอกรนชนิดที่ไม่ใช้เซลล์ และโปลิโอชนิดที่ไม่ใช้ง่าย (DTaP-IPV)" จำนวน 1 เข็ม ก่อนที่จะเข้าโรงเรียน นอกจากนี้ ผู้ปกครองยังต้องส่งสำเนา "ตารางเวลาการฉีดวัคซีนและบันทึกการฉีดวัคซีน" ให้กับโรงเรียนเมื่อสมัครเข้าเรียนเพื่อให้โรงเรียนตรวจสอบสถานะการฉีดวัคซีนและมั่นใจว่าเด็กสามารถเข้าเรียนได้อย่างสุขภาพดีก่อนถึงอายุ 5 ปีและเข้าชั้นประถม เด็ก ๆ ต้องได้รับวัคซีนเพิ่มอีก 1 เข็มของวัคซีน 2 ชนิด (ภาพจาก Heho Health)
ในสภาวะที่ยังคงมีการระบาดของโรคหัดและไอกรนเล็กน้อยในประเทศ กรมอนามัยเรียกร้องให้ผู้ปกครองรีบพาเด็กไปรับการฉีดวัคซีนเพื่อขยายการป้องกันของเด็กและเพิ่มภูมิคุ้มกันหมู่ให้แข็งแกร่งขึ้น ตามระเบียบการฉีดวัคซีน เด็กอ่อนต้องได้รับการฉีดวัคซีน 17 เข็มจากวัคซีน 8 ชนิดก่อนอายุ 3 ขวบ และต้องได้รับการฉีดวัคซีนอีก 2 ชนิด จำนวนคนละ 1 เข็ม ก่อนที่จะเข้าโรงเรียนตอนอายุ 5 ขวบ
เพื่อช่วยให้ผู้ปกครองจำวันเวลาฉีดวัคซีนของเด็ก กรมอนามัยกรุงเทพมหานครแนะนำให้ผู้ปกครองลงทะเบียน "ระบบแจ้งเตือนการฉีดวัคซีนและข้อมูลสุขภาพเด็กทารกและเด็กเล็กผ่าน SMS" ระบบจะส่งการแจ้งเตือนก่อนวันฉีดวัคซีน 7 วัน ผู้ปกครองสามารถทำการนัดหมายการฉีดวัคซีน นำบัตรประกันสุขภาพและสมุดสุขภาพเด็กไปด้วยและทำให้มั่นใจได้ว่าลูกจะได้รับวัคซีนตรงตามเวลาเพื่อปกป้องสุขภาพของพวกเขา