:::

เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเล เรื่องราวการเปิดร้านอาหารและขนมหวานของเยี่ยนลี่ ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ชาวอินโดนิเซีย

เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเล เรื่องราวการเปิดร้านอาหารและขนมหวานของเยี่ยนลี่ ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ชาวอินโดนิเซีย

ขนมหวานอินโดนิเซียหลากหลายชนิดที่คุณเยี่ยนลี่ทำ

สวัสดีเยี่ยนลี่ วันนี้มีลูกค้ามาทานอาหารกี่ท่าน? ทุกๆ วันต้องกล่าวทักทายตัวเองเป็นสิ่งที่ฉันทำเป็นประจำ ฉันชื่อเหย๋า เยี่ยนลี่ (姚燕麗) ปัจจุบันเปิดร้านอาหารกับลูกสาว โดยร้านนี้มีชื่อว่า เยี่ยนลี่-อาหารและขนมหวานเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (艷麗-南洋鹹甜食) ตอนนี้เปิดมาได้ 5 ปี แล้ว และในปีนี้เป็นปีแรกได้ย้ายร้านมาอยู่ที่ถนนหนานต้า อาหารที่ขายในร้านเป็นอาหารบ้านเกิดที่ฉันกินเมื่อตอนเป็นเด็กที่อินโดนีเซีย เช่น:เรินดังเนื้อ ข้าวน่องไก่คลุกขมิ้น ขนมชั้น และขนมพายอินโดนิเซีย เป็นต้น ซึ่งล้วนแล้วเป็นอาหารที่มีรสชาติบ้านเกิด

ลูกค้ามักถามฉันว่า เยี่ยนลี่ คุณเรียนรู้ที่จะทำอาหารและขนมหวานแสนอร่อยเหล่านี้ ตั้งแต่เมื่อไร? ฉันคิดว่าคงเป็นตอนที่ฉันแต่งงานมาอยู่ไต้หวันปีแรก ในตอนนั้นฉันคิดถึงบ้านมากๆ!ฉันที่พึ่งมาอยู่ไต้หวันใหม่ๆ แม้ว่าจะมีสามีคอยอยู่เคียงข้าง แต่เนื่องจากภาษาและวัฒนธรรมที่แตกต่างจึงทำให้รู้สึกเหงาและทำอะไรไม่ถูก ตัวอย่างเช่น ตอนที่ฉันมาอยู่ไต้หวันใหม่ๆ ไม่ค่อยคุ้นเคยกับการทานซอสถั่วเหลืองของไต้หวัน เพราะว่าซอสถั่วเหลืองของอินโดนิเซียค่อนข้างหวาน และเป็นประเทศเมืองร้อนจึงไม่ดื่มซุปร้อนๆ เพื่อให้ร่างกายอยอุ่น อีกทั้งอินโดนิเซียไม่มีฤดูหนาว ทำให้ฉันได้สัมผัสกับฤดูหนาวครั้งแรกในไต้หวันจึงทำให้รู้สึกไม่ค่อยชินกับความหยาวเย็น!แต่มันก็เป็นเพราะความไม่คุ้นชินที่ทำให้ฉันเริ่มมองหารสชาติของบ้านเกิดในซินจู๋ ฉันพยายามที่จะบรรเทาความคิดถึงบ้านผ่านการทานอาหารรสชาติบ้านเกิด แต่อาจจะเป็นเพราะว่าฉันจำรสชาติอาหารที่แม่ทำให้ทานได้ดีทำให้ฉันไม่สามารถค้นหารสชาติอาหารที่อยู่ในความทรงจำของฉันที่ร้านอาหารที่เปิดโดยผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่จากอินโดนิเซียได้ ดังนั้นฉันจึงเริ่มทำแกงเรินดังอินโดนิเซียที่ฉันถนัด ซึ่งนอกจากจะทำให้ตนเองทาน ยังค้นพบว่าสามีและลูกสามารถทานอาหารรสชาตินี้ได้ ทุกๆ ครั้งที่เห็นสามีกับลูกทานอย่างเอร็ดอร่อย ฉันจะรู้สึกอบอุ่นและเต็มไปด้วยความมั่นใจ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของแรงจูงใจในการทำอาหารและขนมหวานบ้ายเกิดชนิดอื่นๆ

ด้วยโอกาสและแรงสนับสนุนของสามี จึงได้เปิดร้านขายของชำขนาดเล็กที่มีพื้นที่สิบตารางเมตรขายอาหารและขนมบ้านเกิดในเมืองเป่ยปู่ มณฑลซินจู๋ ในตอนนั้นเวลาเช้าตรู่ก็จะนึ่งขนมชั้นทำให้ร้านทั้งร้านเต็มไปด้วยกลิ่นกะทิและเผือก และในช่วงบ่ายมักจะมีผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ชาวอินโดนิเซียมาคุยกับฉันซึ่งส่วนมากจะพูดคุยเกี่ยวกับชีวิตครอบครัว ซึ่งชีวิตแบบนี้ช่างแสนสะดวกสบายจริงๆ

ช่วงเวลาที่อยู่ในเมืองซินปู่นั้นผ่านไปประมาณ 10 ปี รวดเร็วเหมือนกระพริบตา แม้ว่าความรักที่มีต่อการทำขนมจะไม่ได้ลดลง แต่การที่ต้องเตรียมทำอาหารทำให้ร่างกายของฉันเริ่มไม่ไหว ในขณะเดียวกันพี่สาวของฉันที่ทำงานมานานต้องกลับประเทศบ้านเกิดเนื่องจากเหตุผลส่วนบุคคล ซึ่งการทำงานหนักเป็น 2 เท่าทำให้ฉันมีความคิดที่จะปิดร้าน แต่ฉันเปิดร้านมานานและมีความผูกพันธืกับที่นี่ ทำให้ฉันตกอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ในเวลานั้นฉันถามลูกสาวของฉันว่าเธอสามารถไปสอบใบอนุญาติด้านการทำอาหาร ซึ่งในใจก็หวังว่าเธอจะเปิดร้านอาหารด้วยกันกับฉันหรือเดินหน้าเปิดร้านเดิม แต่ลูกสาวก็ไม่ได้ตอบ จึงทำให้ฉันหมดหวังและตัดสินใจย้ายอุปกรณ์ทำเงินทั้งหมดกลับไปที่ซินจู๋

เมื่อกลับมาที่ซินจู๋ แต่ก็ไม่ทำให้ฉันอยู่เฉยๆ ได้ บางทีก็ทำขนมหวานแล้วไปฝากขายที่ร้านของเพื่อนๆ ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ และในเวลานี้เองที่ลูกสาวของฉันเรียนจบและกลับมาซินจู๋และช่วยฉันทำขนม ซึ่งพอทำเรื่อยๆ ก็ทำให้เธอเกิดความสนใจ จากเริ่มแรกที่ฉันขอให้มาช่วยห่อขนม จนกระทั้งอาสาช่วยฉันซื้ออวัตถุดิบ และมักจะตามฉันไปที่ร้านเพื่อส่งขนมไม่ว่าฝนจะตกหรือไม่ก็ตาม แต่ว่า ในช่วงแรกๆ เมื่อแม่และลูกสาวทำงานร่วมกันก็มักจะทะเลาะกันอยู่บ่อยๆ เนื่องจากเห็นต่างกันในเรื่องของความคุ้มค่า โดยเรื่องที่ทะเลากันเนื่องจากคุณภาพที่ไม่สามารถควบคุมได้จึงเกิดการบูดเสียเพราะต้องฝากขายที่ร้านคนอื่น และเพราะว่าเพื่อนๆ ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่มีจิตใจดี ฉันจึงไม่กล้าขอร้องให้พวกเค้าดูแลของฝากขายมากเกินไป ส่วนลูกสาวเนื่องจากไม่อยากให้ขนมบูดเสียเนื่องจากสภาพแวดล้อมที่วางขาย จึงทำให้ทะเลาะกัน และมีอยู่วันหนึ่งลูกสาวของฉันเสนอให้เปิดร้านขายขนมหวานเป็นของเราเองเพื่อที่จะให้ขนมที่ทำอย่างเหนื่อยยากเหล่านี้วางอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีและรักษาคุณภาพได้ ซึ่งจะทำให้ขนมมีความสดใหม่ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ฉันและลูกสาวทำการค้นหาสถานที่เปิดร้าน

ร้านอาหารอินโดนิเซียที่เปิดใหม่ของคุณเหยี่ยนลี่ 艷麗-南洋鹹甜食 เป็นที่ชื่นชอบของเพื่อนๆ เป็นอย่างมาก

ก่อนที่ฉันจะพบกับร้านใหม่ ลูกสาวของฉันแนะนำว่าถ้าเปิดร้านอาหารก็อาจจะต้องใช้ใบอนุญาติและเสนอให้เราไปสอบ ตอนแรกฉันก็ปฎิเสธลูกสาวเหมือนที่เขาปฏิเสธฉันในตอนแรก เพราะว่าทักษะการอ่านและเขียนภาษาจีนของฉันไม่ค่อยดี สอบข้อเขียนหลายข้อต้องไม่ผ่านแน่ๆ แต่ต่อมาด้วยกำลังใจจากลูกและคำชี้แนะจากอาจารย์ และฉันกับลูกต่างเตรียมตัวเป็นอย่างดี ลูกสาวอธิบายคำถามแต่ล่ะคำถามให้ฉันฟังและเราก็ฝึกทักษะการทำอาหารด้วยกันจนทำให้เราสอบผ่านในที่สุด!การสอบผ่านได้ใบอนุญาติการทำอาหารตะวันตกเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อจริงๆ ฉันคิดว่านี่เป็นความก้าวหน้าครั้งใหญ่อีกครั้งตั้งแต่ที่ฉันมาอยู่ไต้หวัน!

ตอนนี้ฉันกับลูกได้เปิดร้านอาหารอยู่ที่ถนนหนานต้าการเดินในเส้นทางนี้ทำให้ฉันได้สัมผัสกับอารมณ์ที่หลากหลายและครบทุกรสชาติ ฉันรู้สึกขอบคุณผู้คนมากมายที่ให้การสนับสนุนและรักอาหารอินโดนีเซียแบบฉบับดั่งเดิมของฉัน เป็นสิ่งที่ฉันไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะได้ทำที่ไต้หวัน ฉันรักบ้านเกิดอินโดนิเซีย และก็รักบ้านเกิดของฉันอีกแห่งนั่นก็คือไต้หวัน!

2

มาเป็นคนแรกที่แสดงความคิดเห็น

ข่าวเด่นประเด็นร้อน

ข่าวล่าสุด 最新消息icon
回到頁首icon
Loading