[เว็บไซต์ข่าวรอบโลกสำหรับผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่] ตามรายงานข่าวของ “NNT” การปิดอ่าวมาหยาฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติจากกิจกรรมการท่องเที่ยวของมนุษย์หลายปีที่ผ่านมาประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง สามารถฟื้นฟูธรรมชาติทั้งบนบกและท้องทะเลได้ดีขึ้น แม้ว่าปะการังจะต้องใช้ระยะเวลาในการเติบโตกว่าจะคืนความสมบูรณ์ดังเดิม แต่ภาพรวมพร้อมเปิดให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกได้สัมผัสกับความสวยงามได้แล้วต้นปีหน้า
ช่วง 3 ปีที่ผ่านมา หรือตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2561 จนถึงขณะนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ปิด “อ่าวมาหยาและอ่าวโล๊ะซามะ” อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ อย่างไม่มีกำหนดฟื้นฟูแนวปะการัง ระบบนิเวศ และสัตว์ทะเลหายากระยะยาวให้กลับคืนความสมบูรณ์ หลังหลาย 10 ปีกิจกรรมต่าง ๆ ของมนุษย์ที่เกิดจากการท่องเที่ยว ความหนาแน่นของเรือท่องเที่ยว และนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ส่งผลโดยตรงให้ธรรมชาติเสื่อมโทรมลง ชายหาดทรุดตัว และมีสารเคมีบางชนิด เช่น ครีมกันแดดที่นักท่องเที่ยวใช้ทาตัวก่อนลงเล่นน้ำ เป็นอีกสาเหตุทำให้ปะการังเกิดฟอกขาวจนต้องปิดอ่าวแห่งนี้ จนปัจจุบันแนวปะการังที่ฟื้นฟูค่อย ๆ ดีขึ้นแต่ยังไม่มากนัก เพราะต้องใช้ระยะเวลาเติบโตอย่างช้า ๆ ปีละประมาณ 1 – 2 เซนติเมตรเท่านั้น ยกเว้นทรัพยากรบนบกและชายหาดฟื้นตัวได้ดี โดยเฉพาะสัตว์ทะเลหายากกลับมาหากินบริเวณหน้าหาดมากขึ้น เช่น กะเบนราหู ฉลามหูดำ จากเดิมแทบไม่สามารถพบเห็นได้
อ่านข่าวเพิ่มเติม: ขยายเวลามาตรการป้องกันโรคระดับ 2 ออกไปถึงวันที่ 29 พ.ย. ดูที่เดียวจบ
เปิดอ่าวมาหยารับนักท่องเที่ยวต้นปีหน้า หลังปิดฟื้นฟูทรัพยากรนานกว่า 3 ปี ภาพจาก／คลังภาพ Pixabay
ภาพรวมระหว่างการปิด “อ่าวมาหยา” เจ้าหน้าที่ได้เพาะปลูกปะการังใหม่กว่า 10 ไร่ ควบคู่กับปลูกพันธุ์ไม้ป่าพื้นถิ่นเดิมบริเวณบนฝั่ง - ชายหาด เพื่อช่วยยึดหน้าดินป้องกันการพังทลายของเนินทรายหน้าหาดและติดตามการกัดเซาะชายหาดต่อเนื่อง พบธรรมชาติเริ่มฟื้นตัวกลับมาสมบูรณ์ขึ้น พร้อมรองรับนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่อยากสัมผัสความสวยงามของอ่าวมาหยาในอนาคต เหลือเพียงการสร้างท่าเทียบเรือทางด้านหลังอ่าวมาหยา เพื่อช่วยอนุรักษ์ปริมาณปะการังที่อยู่บริเวณด้านหน้าของอ่าวมาหยาให้มีความอุดมสมบูรณ์และไม่ถูกทำลายด้วยสมอเรือที่ถูกทิ้งจากเรือท่องเที่ยว พร้อมกำหนดแนวเขตสำหรับลงเล่นน้ำให้เป็นการท่องเที่ยวและการอนุรักษ์ทรัพยากรที่พัฒนาควบคู่ไปด้วยกัน คาดว่า จะเปิดการท่องเที่ยวได้ประมาณวันที่ 1 มกราคม 2565 โดยเรือที่จะมายังอ่าวมาหยาไม่อนุญาตให้เรือเข้ามาจอดด้านหน้า แต่จะให้เรือเข้าจอดด้านหลังหาดบริเวณอ่าวโล๊ะซามะแทน
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เล่าให้ฟังว่า อ่าวมาหยา จะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าได้เพียง 300 คนต่อรอบ รอบละ 1 ชั่วโมง และเฉลี่ยนักท่องเที่ยวจะอยู่ที่ 1,800 คนต่อวัน โดยจะเริ่มเปิดตั้งแต่เวลา 10.00 – 16.00 น. แล้วต้องจองผ่านแอบพลิเคชั่น QQ หรือแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ของอุทยานแห่งชาติก่อนเข้าพื้นที่ เพื่อไม่ให้เกิดความหนาแน่นของนักท่องเที่ยว ด้านท่าเทียบเรือจอดสปีดโบ๊ทได้ประมาณ 8 ลำ ส่วนการลงเล่นน้ำบริเวณอ่าวมาหยากำหนดไว้ประมาณ 50 เมตร ที่ระดับความลึกประมาณระดับเอว เพราะส่วนที่ห้ามเล่นน้ำเป็นพื้นที่เพาะปลูกปะการังไว้ ซึ่ง 1 ปีที่ผ่านมาปะการังพบเติบโตประมาณ 2 เซนติเมตร
อ่านข่าวเพิ่มเติม: ข่าวดี! แรงงานต่างชาติเดินทางเข้าประเทศได้แล้ว อนุญาตให้แรงงานต่างชาติจากอินโดนีเซียเข้าก่อน
“อ่าวมาหยา” ตั้งอยู่บนเกาะพีพีเลขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของหมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ มีความโดดเด่นสวยงามด้วยลักษณะเป็นเวิ้งอ่าวขนาดเล็กรูปพระจันทร์เสี้ยวที่โอบล้อมด้วยเขาหินปูนที่เกิดจากการสร้างสรรค์ของธรรมชาติ จากการพังทลายของหน้าผาที่โอบล้อม ผสมผสานกับน้ำทะเลสีเขียวสดใสจนมองเห็นพื้นทราย และมีหาดทรายขาวสะอาดทรายละเอียด จนเป็นที่สะดุดตานำมาสู่ความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก ส่งผลให้การท่องเที่ยวในพื้นที่อ่าวมาหยาเติบโตอย่างก้าวกระโดด จากความนิยมของการบอกปากต่อปากส่งผลกระทบโดยตรงให้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะแนวปะการังเสื่อมโทรมขั้นรุนแรงจากการทิ้งสมอเรือและคลื่นยักษ์สึนามิบริเวณหน้าชายหาดอ่าวมาหยา
