จากวารสารป้องกันโรคหัวใจของยุโรป (European Journal of Preventative Cardiology) มีงานวิจัยชี้ว่า การเดินอย่างน้อยวันละ 2,337 ก้าว ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ และการเดินอย่างน้อยวันละ 3,967 ก้าว จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากทุกโรคได้ กล่าวโดยสรุปได้ว่า การเดินไม่ว่ามากหรือน้อยล้วนมีประโยชน์ต่อสุขภาพ ลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคต่างๆได้ และทำให้อายุยืนยาวขึ้นได้
เมซีย์ บานาค (Maciej Banach) ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจ ของมหาวิทยาลัยการแพทย์ล็อตซ์ (Medical University of Lodz)ประเทศโปแลนด์ ได้รวบรวมผลงานวิจัยในอดีต ของประเทศออสเตรเลีย ญี่ปุ่น นอร์เวย์ สเปน อังกฤษ และสหรัฐอเมริกา ทั้งหมด 17 งานวิจัย มีระยะเวลาติดตามผลเฉลี่ย 7 ปี ศึกษาข้อมูลกลุ่มตัวอย่าง 226,889 คน เพื่อวิเคราะห์ผลลัพธ์ด้านสุขภาพที่เกิดจากการเดิน ซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วว่า ยิ่งเดินมากเท่าไหร่ ยิ่งดีต่อสุขภาพมากเท่านั้น ไม่จำกัดเพศ วัย และสัญชาติ
การเริ่มต้นนิสัยการเดินทุกวันตั้งแต่อายุยังน้อย ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้ ภาพ/จากคลังภาพ Pixabay
อ่านข่าวเพิ่มเติม: กรมการท่องเที่ยวเผยมูลค่าการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติปี 2022 สูงถึง 53,000 ล้านเหรียญไต้หวัน
ผลการศึกษาในกลุ่มคนหนุ่มสาวอายุยังน้อย การเดินวันละ 7,000 – 13,000 ก้าว สามารถลดอัตราการเสียชีวิตได้ถึง 49% ส่วนกลุ่มผู้สูงวัยที่มีอายุ 60 ขึ้นไป การเดินวันละ 6,000 – 10,000 ก้าว สามารถลดอัตราการเสียชีวิตได้ 42%
ทีมผู้วิจัยแนะนำว่า ควรเดินให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ หากเดินได้มากกว่า 3,967 ก้าว ก็จะยิ่งลดอัตราเสี่ยงที่จะเสียชีวิตได้มากยิ่งขึ้น โดยทุก 500 ก้าวที่เดินเพิ่มขึ้น จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือดได้เพิ่มอีก 7% และทุก 1,000 ก้าวที่เดินเพิ่มขึ้น จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากทุกโรคได้เพิ่มอีก 15%
ข้อมูลองค์การอนามัยโลกเผยว่า การไม่ออกกำลังกายเป็นหนึ่งในสาเหตุของการเสียชีวิตที่พบบ่อยเป็นอันดับที่ 4 ในหมู่ประชากรโลก จึงอยากเชิญชวนให้ประชาชนเดินเพิ่มมากขึ้น เพื่อส่งเสริมสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง นอกจากนี้ การเดินยังถือเป็นกิจกรรมออกกำลังกายที่สะดวกกว่ากีฬาชนิดอื่นๆ ทั้งไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ และยังสามารถทำได้ทุกที่ ทุกเวลา อีกด้วย