泰國衛生局: 自來水仍可飲用，不會有攝取過多鈉的問題，但仍建議腎臟患者喝瓶裝水
กรมอนามัย แจงยังดื่มน้ำประปาได้ ไม่ก่อปัญหาโซเดียมเกิน เว้นคนป่วยไตควรดื่มน้ำขวดแทน
因為乾旱而導致海水倒灌，造成自來水味道變鹹 (圖/pixabay)
泰國因為乾旱而導致海水倒灌，造成自來水味道變鹹，經常使用自來水的人有可能會感覺味道有改變，有如烹飪的氯化鈉鹽或食鹽。對此，衛生局局長PanphimolWipulakorn博士建議，年長者或腎病患者買瓶裝水飲用，以免為此攝取過多的鈉。
พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กล่าวถึงกรณีภาวะแล้ง น้ำทะเลหนุนสูง ทำให้เกิดปัญหาน้ำประปาเค็ม จนมีข้อแนะนำให้ดื่มน้ำขวดแทนไปก่อน โดยเฉพาะผู้สูงอายุหรือผู้เป็นโรคไต เพราะอาจรับโซเดียมมากเกินไป
根據世界衛生組織（WHO）提供的飲用水標準，自來水的鈉不應超過200毫克、氯化物每升不超過250毫克。如果自來水中有過多鈉，則會導致水有鹹味。目前帶鹹味的自來水每升約含有100-150毫克的鈉，尚低於營養醫學建議，人類每天應攝取不超過2,000毫克的鈉，因此，現在的自來水對於一般人來說，較無健康上的影響。
องค์การอนามัยโลก (WHO) กำหนดค่าแนะนำเพื่อความน่าดื่มและการยอมรับของผู้บริโภคไว้ คือ ในน้ำประปา ควรมีโซเดียมไม่เกิน 200 มิลลิกรัมต่อลิตร และคลอไรด์ไม่เกิน 250 มิลลิกรัมต่อลิตร แต่ถ้าเจือปนในน้ำมากเกินไปจะทำให้น้ำมีรสกร่อยถึงเค็มได้ ซึ่งทางโภชนาการและการแพทย์แนะนำว่า มนุษย์ควรรับโซเดียมเข้าสู่ร่างกายไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน โดยปัจจุบันน้ำประปามีโซเดียมประมาณ 100-150 มิลลิกรัมต่อลิตร จึงเป็นไปไม่ได้ที่คนปกติจะดื่มน้ำประปาจนได้รับโซเดียมเกินกว่าที่กำหนด
PanphimolWipulakorn博士表示，自來水的鹽度可能只會向人體添加少量的鈉，不會影響健康，但對於高風險人群仍可能造成影響，例如腎臟患者。但對於腎臟患者在自來水帶鹹味期間，於醫院接受透析服務時不需擔心恐慌，因為每個醫院都有標準的反滲透淨水器 (Reverse Osmosis)。另外，對於使用自來水的一般人，可能比平時攝取更多的鈉，建議應該減少鹹味食品添加劑的量，例如鹽、魚露、醬油、調味粉、調味料，並避免食用高鈉食品，如零食，洋芋片等，或是飲用瓶裝水以減少身體負擔。
พญ.พรรณพิมล กล่าวว่า ความเค็มจากน้ำประปาอาจเพิ่มโซเดียมเข้าสู่ร่างกายต่อวันในปริมาณเล็กน้อยเท่านั้น ไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ แต่อาจจะส่งผลต่อกลุ่มเสี่ยงที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษคือกลุ่มผู้ป่วยโรคไต เพราะหากดื่มน้ำประปาที่มีความเค็มจะทำให้ได้รับโซเดียมเพิ่มขึ้นจากปกติได้ ดังนั้น ในช่วงน้ำประปาเค็ม กลุ่มผู้ป่วยโรคไตที่รับบริการฟอกไตที่โรงพยาบาลไม่ต้องกังวล เนื่องจากโรงพยาบาลทุกแห่งมีระบบการกรองแบบ Reverse Osmosis (RO) ที่ได้มาตรฐานและมีประสิทธิภาพ มั่นใจได้ในเรื่องความปลอดภัย และสำหรับคนปกติทั่วไป การดื่มน้ำกร่อยอาจได้รับโซเดียมเพิ่มเติมจากปกติ จึงควรลดปริมาณสารปรุงแต่งอาหารที่มีความเค็มลง เช่น เกลือ น้ำปลา ซีอิ้ว ซอสปรุงรส ผงปรุงรส งดการบริโภคอาหารที่มีโซเดียมสูง เช่น ขนมกรุบกรอบ มันฝรั่งทอด หรือเปลี่ยนเป็นใช้น้ำดื่มบรรจุขวด ปิดสนิทแทนจะดีกว่า และยังส่งผลดีต่อสุขภาพด้วย
PanphimolWipulakorn博士表示，一般人不太需要擔心，因為正常的腎臟可以處理廢物。但令人擔心的是，腎臟疾病患者因腎臟功能較差，除鹽的能力變弱，恐有腎衰竭的風險；因此，腎臟疾病患者不應再攝入鹽。就像一般人每天只能接受不超過1茶匙得鹽，腎臟患者的攝入量必須更少。腎臟病人應避免飲用自來水，或者透過濾水器的使用降低鹽的攝取，但因大多數常規濾水器只會過濾沉積物和其他污染物，必須使用價位較高的反滲透淨水器（Reverse Osmosis），所以對於較無法負擔的人，還是建議買瓶水飲用。
พญ.พรรณพิมล กล่าวว่า คนปกติทั่วไปไม่มีอะไรน่ากังวล เพราะไตทำงานปกติ สามารถขับของเสียออกมาได้ แต่ที่ต้องกังวลคือ ผู้ป่วยโรคไต เนื่องจากไตทำงานได้น้อยลง การกำจัดเกลือก็จะน้อยตามไปด้วย และมีความเสี่ยงภาวะไตวายได้ ดังนั้น ผู้ป่วยโรคไตไม่ควรรับเกลือเข้าสู่ร่างกายอยู่แล้ว อย่างคนทั่วไปรับได้วันละไม่เกิน 1 ช้อนชา ผู้ป่วยไตต้องน้อยกว่านั้นมากๆ อย่างแพทย์จะแนะนำเลยว่า ไม่ควรกินของเค็ม แต่ก็ขึ้นอยู่กับสภาพไตของแต่ละบุคคล” พญ.พรรณพิมล กล่าวและว่า ผู้ป่วยโรคไตควรต้องเลี่ยงดื่มน้ำประปา หรืออาจใช้เครื่องกรอง แต่ก็จะมีราคาแพง เพราะเครื่องกรองน้ำปกติส่วนใหญ่กรองตะกอน สิ่งปนเปื้อนอื่นๆ ไม่สามารถกรองความเค็มได้ เพราะละลายในน้ำเหมือนเกลือแกง ต้องใช้เครื่องกรองน้ำ Reverse Osmosis แต่มีราคาแพง ทางที่ดีที่สุดสำหรับผู้ป่วยโรคไต ควรซื้อน้ำขวดดื่มก่อน
新聞來源: Manager Online
ข้อมูลข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์
