:::

ประชาชนและผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่กว่าพันคนเข้าร่วมงานเฉลิมฉลองวันย้ายถิ่นฐาน ณ พิพิธภัณฑ์ฉี๋เหม่ย นครไถหนาน

ประชาชนและผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่กว่าพันคนเข้าร่วมงานเฉลิมฉลองวันย้ายถิ่นฐาน ณ พิพิธภัณฑ์ฉี๋เหม่ย นครไถหนาน

วันที่ 18 ธ.ค. ของทุกปี เป็นวันที่องค์การสหประชาชาติกำหนดให้เป็นวันย้ายถิ่นฐานสากลตั้งแต่ปี 2000 หลังจากนั้นในปี 2011 กระทรวงมหาดไทยไต้หวันก็ได้กำหนดให้วันที่ 18 ธ.ค.ของทุกปีเป็นวันย้ายถิ่นฐานของไต้หวัน เพื่อให้ความสำคัญกับการดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชนและความหลากหลายทางวัฒนธรรมของผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ ปัจจุบันไต้หวันมีจำนวนผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่กว่า 550,000 คน เมื่อรวมกับบุตรผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ และแรงงานข้ามชาติจะมีจำนวนรวมกันเกิน 1 ล้านคน ซึ่งพวกเขาเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการบูรณาการความหลากหลายทางวัฒนธรรม ความมั่นคงทางสังคม และการพัฒนาเศรษฐกิจของไต้หวัน

ในปีนี้ (2019) สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองไต้หวัน (สตม.ไต้หวัน) ได้ย้ายไปจัดงานที่นครไถหนานเป็นครั้งแรก จากเมื่อปีที่แล้ว (2018) ที่จัดขึ้นที่นครไถจง โดยร่วมมือกับรัฐบาลนครไถหนานจัดงานเฉลิมฉลองวันย้ายถิ่นฐาน (Taiwan, Diversity Calls it Home) ณ พิพิธภัณฑ์ฉี๋เหม่ย เมื่อวันอาทิตย์ที่ 8 ธ.ค.ที่ผ่านมา

นายซู่ กั๋วหย่ง (徐國勇) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยไต้หวันเดินทางมาร่วมงานด้วย

งานนี้สามารถดึงดูดประชาชน ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ และแรงงานข้ามชาติมากกว่าพันคนเดินทางมาร่วมงาน นายซู่ กั๋วหย่ง (徐國勇) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยไต้หวัน และนายหวง เหว่ยเจ๋อ (黃偉哲) นายกเทศมนตรีนครไถหนาน ได้เดินทางมาร่วมงานด้วย นอกจากนี้ยังมีแขกคนสำคัญอย่างนายอ้าย รุ่ยฉง (艾芮瓊) เอกอัครราชทูตแห่งสาธารณรัฐหมู่เกาะมาร์แชล และผู้แทนของเวียดนาม อินโดนีเซีย ไทยฟิลิปปินส์ มาเลเซีย อิตาลี สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้เดินทางมาร่วมงาน พร้อมร่วมกันตีกลองเปิดงานด้วย หลังจากนั้นก็ได้มีพิธีมอบสัญชาติไต้หวันอย่างเป็นทางการ และยกย่องผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่และแรงงานข้ามชาติดีเด่นที่อุทิศตนให้กับไต้หวัน ซึ่งบรรยากาศของงานไม่เพียงแต่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน ครึกครื้น แต่ยังเต็มไปด้วยความอบอุ่น ท่ามกลางอากาศที่สดใส

นายชิว เฟิงกวง (邱豐光) ผู้อำนวยการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง, นายหวง เหว่ยเจ๋อ (黃偉哲) นายกเทศมนตรีนครไถหนาน และตัวแทนจากประเทศต่างๆ ร่วมกันตีกลองเปิดงาน

สำหรับการแสดงเปิดงานนั้นเป็นการแสดงตีกลองจากกลุ่มการแสดงตีกลอง (Tendrum Art Percussion Group) ซึ่งหลังจากการแสดงเสร็จสิ้นก็ได้รับเสียงปรบมือจากผู้ชมอย่างกึกก้อง นอกจากนี้ ยังมีการแสดงต่างๆ มากมายที่เต็มไปด้วยความหลากหลายทางวัฒนธรรมจากผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ เช่น การเต้นหมุนตัว ระบำอิยิปต์, ระบำอัปสราของกัมพูชา, การแสดงแฟชั่นโชว์ชุดกี่เพ้า, การเต้นรำ Tari Saman ของอินโดนิเซีย และการร้องเพลงรักของประเทศปารากวัย เป็นต้น ภายในงานยังมีบูธจัดแสดงวัฒนธรรม อาหาร เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของประเทศต่างๆ มากมาย เช่น ประเทศแถบอเมริกาใต้ แอฟริกา ไทย เวียดนาม อินโดนิเซีย ฟิลิปปืนส์ กัมพูชา จีน เกาหลีใต้ เป็นต้น ซึ่งทำให้ผู้ร่วมงานได้เรียนรู้ และสัมผัสถึงความเป็นนานาชาติได้เป็นอย่างดี

การจัดงานในคร้งนี้ได้รวมเอาองค์ประกอบท้องถิ่นเข้าไว้ด้วยกัน โดยมีการเชิญคณะเต้นรำชาวพื้นเมืองไต้หวันและตะวันออกกลางมาทำการแสดงด้วย อีกทั้งยังมีเกมผ่านด่านเพื่อส่งเสริมให้ผู้เล่นได้เรียนรู้ด้านวัฒนธรรม และสามารถจับของรางวัลได้อีกด้วย

ในปีนี้มีการจัดพิธีมอบสัญชาติไต้หวันแก่ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่อย่างเป็นทางการ โดยได้เชิญตัวแทนที่ได้รับสัญชาติไต้หวันมาร่วมงาน ได้แก่ คุณหมิ๋น จื่อยง (閔子雍) อดีตผู้แทนสำนักงานเบลเยี่ยมประจำกรุงไทเป, คุณกู่ เย่วหาน (谷月涵) นักวิเคราะห์ต่างประเทศชาวอเมริกันผู้ที่ได้ชื่อว่า “Mr. Taiwan”, คุณหลี่ ต้าเว่ย (李大衛) ผู้เชี่ยวชาญด้านปัญญาประดิษฐ์ชาวออสเตรเลีย, คุณเป่ย หยิ๋นเอิน (裴伊恩) นักออกแบบชาวอังกฤษผู้ก่อตั้งแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศสำหรับงานด้านความคิดสร้างสรรค์ของไต้หวัน, ดร.ฟ่าน ปิ่งเทียน (范秉天) ชาวแอฟริกาใต้ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานลมที่มีความรักไต้หวันมาก และคุณเจิ้ง เฉิงเจียว (鄭成嬌) ลูกสะใภ้ของชาวไต้หวัน โดย นายซู่ กั๋วหย่ง (徐國勇) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยไต้หวัน และนายหวง เหว่ยเจ๋อ (黃偉哲) นายกเทศมนตรีนครไถหนานได้ทำการมอบใบรับรองสัญชาติด้วยตนเอง

ตัวแทนชาวต่างชาติที่ได้รับสัญชาติไต้หวัน

นอกจากนี้ เพื่อเป็นการขอบคุณผู้ที่ย้ายถิ่นฐานและเป็นพลังใหม่ให้กับไต้หวันมาโดยตลอด จึงได้มีการจัดพิธีชื่นชม

ด้วย นายซู่ กั๋วหย่งกล่าวว่า ปัจจุบันไต้หวันมีจำนวนผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่มากกว่า 550,000 คน และหากรวมกับบตรผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ก็จะมีจำนวนเกือบ 1 ล้านคน นอกจากนี้ยังมีเพื่อนๆ หลายแสนคนจากทั่วทุกมุมโลกที่ตั้งใจทำงาน เรียนหนังสือ เผยแพร่ศาสนา หรือลงทุนทำธุรกิจในไต้หวัน ซึ่งมีส่วนร่วมสำคัญของไต้หวันในหลายๆ ด้าน เช่นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เศรษฐกิจ ดูแลผู้สูงอายุ และวัฒนธรรมการใช้ชีวิต การย้ายถิ่นฐานทำให้ไต้หวันมีความหลากหลายและสวยงามมากขึ้น นายซู่ กั๋วหย่งกล่าวว่า การแสดงกลองในครั้งนี้ก็เปรียบได้กับชนิดของกลองที่หลากหลาย ก็ทำให้การแสดงออกมามีเสียงที่หลากหลายและมีสีสันมากขึ้น ไต้หวันเป็นประเทศของสังคมผู้ย้ายถิ่น เนื่องจากมีจำนวนผู้ย้ายถิ่นฐานมากขึ้น จึงทำให้ไต้หวันมีสีสันมากขึ้น

ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่และแรงงานข้ามชาติดีเด่นที่อุทิศตนเพื่อไต้หวันทั้งหมด 10 คน

นายหวง เหว่ยเจ๋อ นายกเทศมนตรีนครไถหนานกล่าวว่า ไม่ว่าจะเป็นผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ ชาวพื้นเมือง หรือผู้ที่พึ่งได้รับสัญชาติไต้หวัน ชาวไต้หวัน เราก็คือครอบครัวเดียวกัน ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่จากทุกประเทศทำให้ไต้หวันเป็นสังคมผู้ย้ายถิ่นฐาน สีสันของผู้ย้ายถิ่นฐานทำให้วัฒนธรรมอาหารในท้องถิ่นหลากหลายขึ้นและเติมเต็มชีวิตขอประชาชน ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ในไต้หวันแต่ละคนต่างมีเรื่องราวเป็นของตนเอง ไม่ว่าจะแต่งงานมาไต้หวัน ทำงาน หรือมาเรียนหนังสือ ก็อาศัยอยู่รวมกัน รัฐบาลนครไถหนานหวังว่า การจัดงานในครั้งนี้ จะทำให้ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่รู้สึกถึงการบริการที่ใกล้ชิดของนครไถหนาน และให้ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่คิดว่านครไถหนานเป็นบ้านเกิดอีกแห่งหนึ่งของตนเอง เรามีความยินดีต้อนรับผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่เพิ่มเติมเพื่อมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวนครไถหนาน

บูธนำเสนอวัฒนธรรมไทย

กลุ่มผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ชาวจีน

กลุ่มผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ชาวอินโดนิเซีย

บูธประเทศกัมพูชา

ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ชาวเวียดนามสวมชุดประจำชาติ

3

7

6

1

5

2

8

7

4

มาเป็นคนแรกที่แสดงความคิดเห็น

ข่าวเด่นประเด็นร้อน

ข่าวล่าสุด 最新消息icon
回到頁首icon
Loading