:::

มิ.ย.นี้ ครม.เคาะเก็บค่าเหยียบแผ่นดินทางอากาศคนละ 300 บาท ทางบกและทางน้ำคนละ 150 บาท

ตั้งแต่เดือน มิ.ย.นี้ ครม.เคาะเก็บค่าเหยียบแผ่นดินทางอากาศคนละ 300 บาท ทางบกและทางน้ำคนละ 150 บาท ภาพ/นำมาจากคลังภาพ Pixabay
ตั้งแต่เดือน มิ.ย.นี้ ครม.เคาะเก็บค่าเหยียบแผ่นดินทางอากาศคนละ 300 บาท ทางบกและทางน้ำคนละ 150 บาท ภาพ/นำมาจากคลังภาพ Pixabay

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 14 ก.พ.2566 เห็นชอบการจัดเก็บค่าธรรมเนียมการท่องเที่ยวภายในประเทศของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยผ่านช่องทางอากาศ 300 บาท และช่องทางบก ช่องทางน้ำ 150 บาทต่อคนต่อครั้ง เพื่อใช้เป็นทุนหมุนเวียนในการพัฒนา การท่องเที่ยว สร้างขีดความสามารถในการแข่งขันให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยว และการจัดให้มีการประกันภัยแก่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในระหว่างท่องเที่ยวภายในประเทศ ส่วนผู้ที่เดินทางเข้ามาแบบไปเช้า-เย็นกลับ จะได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียม

“ยืนยันว่าการเก็บค่าธรรมเนียมครั้งนี้ เพื่อนำมาเป็นค่าใช้จ่ายในการทำประกันสุขภาพและอุบัติเหตุให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งจากการเก็บข้อมูลในปี 2560-2562 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไปใช้บริการในสถานพยาบาลของรัฐ ซึ่งรัฐต้องใช้งบดูแลมากถึง 300-400 ล้านบาท ซึ่งการเริ่มบังคับใช้กฎหมายจะเริ่มภายใน 90 วันหลังประกาศราชกิจจานุเบกษา คาดว่าจะเริ่มใช้ประมาณวันที่ 1 มิ.ย.2566”

อ่านข่าวอื่นเพิ่มเติม : นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาเที่ยวไต้หวันมีโอกาสได้รับเงินอุดหนุน 5,000 เหรียญ

ตั้งแต่เดือน มิ.ย.นี้ ครม.เคาะเก็บค่าเหยียบแผ่นดินทางอากาศคนละ 300 บาท ทางบกและทางน้ำคนละ 150 บาท ภาพ/นำมาจากคลังภาพ Pixabay

รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา คาดว่าปีนี้จะเก็บค่าธรรมเนียมจากนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 13 ล้านคน คิดเป็นวงเงิน 3,900 ล้านบาท โดยเงินที่เก็บมา 300 บาทต่อคน จะนำมาซื้อประกันภัยให้กับนักท่องเที่ยว 50 บาท ส่วนที่เหลือในปีนี้คาดว่าประมาณ 3,250 ล้านบาท จะนำเข้ากองทุนส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจะจัดทำระเบียบการใช้เงินมาเสนอนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง โดยจะมีการตั้งคณะกรรมการที่มาจากกระทรวงที่เกี่ยวข้อง 10 กระทรวง มากำกับการใช้เงิน “เงินในกองทุนจะนำมาใช้ในการส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยว พัฒนาแหล่งท่องเที่ยว และสร้างแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นการสร้างขึ้นหรือ Man Made ตลอดจนใช้จัดอีเวนต์ต่างๆ และในกรณีเกิดเหตุการณ์รุนแรงเหมือนการแพร่ระบาดโควิด-19 แบบที่ผ่านมา ก็สามารถนำเสนอ ครม.ให้นำเงินดังกล่าวมาให้ภาคเอกชนท่องเที่ยวกู้เพื่อเสริมสภาพคล่องได้”

นายอดิษฐ์ ชัยรัตนานนท์ เลขาธิการสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (แอตต้า) กล่าวว่า รัฐบาลต้องวางรูปแบบการบริหารค่าเหยียบแผ่นดินตั้งแต่ตอนนี้ เพราะต่อไปจะเป็นเงินก้อนใหญ่ระดับหมื่นล้านบาท จึงต้องวางระบบและหาคนบริหารจัดการให้ดี ไม่ใช่นำออกมาใช้จ่ายทีละเล็กละน้อย และขอเสนอว่าคณะกรรมการที่จะมาดูแลการใช้จ่ายเงิน ควรมีตัวแทนของภาคเอกชนร่วมด้วย นอกจากนั้นต้องกำหนดสัดส่วนที่จะแบ่งวงเงิน มาจัดตั้งกองทุนเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการท่องเที่ยวให้ชัดเจน

อ่านข่าวอื่นเพิ่มเติม : สตม.เผิงหูจัดรถไฟบริการเคลื่อนที่ลงพื้นที่ห่วงใยพี่น้องแรงงานต่างชาติ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 14 ก.พ.2566 สมาชิกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) และสมาคมโรงแรมไทย ได้ร่วมกันเชิญตัวแทน 7 พรรคการเมืองร่วมแสดงวิสัยทัศน์และนโยบายขับเคลื่อนภาคการท่องเที่ยว โดยนายสรเทพ โรจน์พจนารัช พรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า เสนอให้แบ่งเงิน 100 บาท เงินจากการเก็บค่าธรรมเนียมนักท่องเที่ยวต่อคนมาจัดตั้งเป็นกองทุนให้ภาคเอกชนท่องเที่ยว ขณะที่นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เสนอให้มีการจัดตั้งธนาคารเพื่อการท่องเที่ยว ให้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ถูกกว่า ขณะที่นายสัมพันธ์ แป้นพัฒน์ พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า ภาครัฐบาลควรหาวิธีลดต้นทุนให้ภาคธุรกิจท่องเที่ยวให้ฟื้นจากโควิด-19 ขณะที่นายวรภพ วิริยะโรจน์ พรรคก้าวไกล เปิดเผยว่า โอกาสที่มองเห็นในตอนนี้คือการพัฒนาให้เกิดซิงเกิลแพลตฟอร์มสำหรับชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยเกิดความสะดวกและจองห้องพักผ่านของโรงแรมระบบนี้ได้ด้วย

ข่าวเด่นประเด็นร้อน

:::
回到頁首icon
Loading