การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในไต้หวันเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเร็วๆ นี้รัฐบาลเมืองไทเปได้จัดงานแถลงข่าวการป้องกันการแพร่ระบาด โดยนายกเทศมนตรีเมืองไทเป เคอเหวินเจ๋อ (柯文哲) กล่าวว่า ปัจจุบันได้มีการคลายล็อกมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของร้านอาหารในไทเปอย่างเหมาะสม ซึ่งถ้าคนที่นั่งรับประทานอาหารในโต๊ะเดียวกันเป็นคนในครอบครัว หรือคนที่รู้จักกัน ไม่จำเป็นต้องมีฉากกั้น หรือไม่จำเป็นต้องนั่งเว้นที่ แต่หากโต๊ะเดียวกันเป็นคนแปลกหน้า ควรใช้มาตรการข้างต้นที่กล่าวมา นอกจากนี้ สถานการณ์การแพร่ระบาดในต่างประเทศยังคงรุนแรงอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งไวรัสสายพันธุ์เดลต้าอาจบุกเข้ามาในไต้หวันได้ทุกเมื่อ จากประสบการณ์ทั่วโลกที่ผ่านมา ถือว่าฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวช่วงเดือนพฤศจิกายน เป็นช่วงเวลาที่อันตรายที่สุดสำหรับการแพร่เชื้อของโรคโควิด-19
อ่านข่าวเพิ่มเติม: คลิกด่วน! คูปอง 5 เท่าใช้ได้ในวันที่ 8 ต.ค. "วิธีลงทะเบียน ขอบเขตการใช้งาน และมาตรการเพิ่มเติม" เรานำมารวมไว้ในที่เดียวให้ท่านแล้ว
เคอเหวินเจ๋อ กล่าวว่า หากเป็นคนรู้จักนั่งทานในโต๊ะเดียวกัน "ไม่จำเป็นต้องมีฉากกั้น หรือไม่ต้องนั่งเว้นที่" รูปภาพนำมาจาก/รัฐบาลเมืองไทเป
นายกเทศมนตรีเมืองไทเป เคอเหวินเจ๋อ กล่าวว่า ถ้าคนที่นั่งรับประทานอาหารในโต๊ะเดียวกันเป็นคนในครอบครัว หรือคนที่รู้จักกัน ไม่จำเป็นต้องมีฉากกั้น หรือไม่จำเป็นต้องนั่งเว้นที่ แต่หากโต๊ะเดียวกันเป็นคนแปลกหน้าควรมีฉากกั้น หรือใช้วิธีการเว้นที่นั่ง ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นมา ไต้หวันสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเรื่องนี้ไม่ได้เป็นเพราะว่ามีกฎหมายที่เข้มงวดเพียงอย่างเดียว หากแต่เป็นเพราะว่ารัฐฯ ได้มีการเชิญชวนหรือเรียกร้องให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการต่างๆด้วย ดังนั้น ระเบียบการสำหรับร้านอาหารจึงสามารถผ่อนคลายลงเป็นระดับปานกลางได้ และรัฐฯจะไม่ใช้วิธีการบังคับประชาชนให้ปฏิบัติตาม
อ่านข่าวเพิ่มเติม: กระทรวงศึกษาธิการประกาศ "แนวทางการป้องกันการแพร่ระบาดในโรงเรียน" สั่งห้ามผู้ที่ป่วยไปทำงานหรือไปเรียนที่โรงเรียนเด็ดขาด
ตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน ร้านอาหารในเมืองไทเปเริ่มคลายล็อกมาตรการเพิ่ม รูปภาพนำมาจาก/รัฐบาลเมืองไทเป
เคอเหวินเจ๋อ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เมืองไทเปไม่มีแหล่งแพร่เชื้อที่ไม่ทราบอย่างชัดเจน ไม่ว่ากฎระเบียบของร้านอาหารจะผ่อนคลายอย่างไร ระบบชื่อจริงไม่สามารถละเลยได้ หากในเมืองไทเปที่ใดไม่ปฏิบัติตามระบบชื่อจริง มีโทษปรับตั้งแต่ 3,000 ถึง 15,000 ดอลลาร์ไต้หวันใหม่