:::

ทีม “เออร์ซือ” มหาลัยจงเจิ้ง สนับสนุนให้ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่รุ่นที่ 2 ค้นหารากเหง้าแบ่งปันวัฒนธรรมของตนเอง

สมาชิกทีมเออร์ซือของมหาลัยจงเจิ้งจัดค่ายวัฒนธรรม ภาพจาก : จัวเจี๋ยหรง (卓婕容)
สมาชิกทีมเออร์ซือของมหาลัยจงเจิ้งจัดค่ายวัฒนธรรม ภาพจาก : จัวเจี๋ยหรง (卓婕容)
เว็บไซต์ข่าวรอบโลกสำหรับผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่】ผู้เรียบเรียงและแปล/นงค์รักษ์ เหล่ากอคำ (李慧毓)

[เว็บไซต์ข่าวรอบโลกสำหรับผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่] “ตอนแรกทีม “เออร์ซือ”  มีแค่เด็กหญิงอายุ 20 เพียง 5 คนเท่านั้น” จัวเจี๋ยหรง (卓婕容) กำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติจงเจิ้ง สาขาวิชาการเงิน ปี 3 พูดถึงความยากลำบากตอนที่เริ่มก่อตั้ง (貳拾Twenty x CCU) อ่านว่า “เออร์ซือ” เสียงของเธอนุ่มนวลอ่อนโยน แต่สิ่งที่สื่อออกมานั้นเต็มไปด้วยปณิธานอันแน่วแน่

“貳 (เออร์) หมายถึง ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่รุ่นที่ 2 ส่วน 拾 (ซือ) หวังว่าทุกท่านจะนำความทรงจำและประสบการณ์ดี ๆ ไปแบ่งปัน” เออร์ซือ เป็นการร่วมกันก่อตั้งโดยผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่รุ่นที่ 2 “เมื่อก่อนไม่กล้าที่จะยอมรับสถานะของตนเอง และก็ไม่ได้อยากจะเข้าใจในวัฒนธรรมประเทศบ้านเกิดของพ่อแม่ของตัวเองเลย” พวกเขาตัดสินใจกล้าที่เผชิญหน้ากับสถานะของตนเอง ปีนี้ได้เข้าร่วมในโครงการ “วัยรุ่นหนุ่มสาวที่รัฐบาลเมืองเจียอี้อยากจะได้” ด้วยการวางแผนกิจกรรม “ค่ายวัฒนธรรมของคนต่างถิ่น” ก้าวแรกของเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมจะถูกส่งไปยังโรงเรียนประถมและมัธยม เพื่อให้เด็ก ๆ ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ไม่เพียงเข้าใจวัฒนธรรมประเทศบ้านเกิดของพ่อแม่เท่านั้น แต่ยังรู้คุณค่าของตัวเองด้วย

สมาชิกทีมเออร์ซือของมหาลัยจงเจิ้ง ภาพจาก : จัวเจี๋ยหรง (卓婕容)

เนื่องจากช่วงเวลานั้นโรคโควิดกำลังแพร่ระบาด สมาชิกในกลุ่มกลัวว่านิทรรศการนี้จะไม่สามารถจัดได้ สุดท้ายกลับคิดไม่ถึงว่าผลงานที่ออกมากลับทำให้ผู้คนทั้งหลายรู้สึกประทับใจ มีนักเรียนมัธยมปลายคนหนึ่งเขียนใบสอบถามการทำกิจกรรม เขาเล่าว่าในชั้นเรียนมีเพื่อนผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่รุ่นที่ 2 อยู่คนหนึ่งเคยโดนรังแก ตอนนั้นเขาอยากจะเข้าไปช่วย แต่ท้ายที่สุดก็ไม่กล้า เรื่องนี้กลับเป็นบาดแผลภายในใจของเขา ทำให้เขารู้สึกเสียใจภายหลังเป็นอย่างมาก หลังจากที่ได้รู้จักค่ายวัฒนธรรมนี้ “ต้องแสดงออกถึงการสนับสนุน”

นอกจากนี้ ค่ายวัฒนธรรมนี้ยังได้ฝึกฝนนักศึกษามหาลัยให้เป็นเมล็ดพันธุ์ ให้กิจกรรมในครั้งนี้มีการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมที่แตกต่าง ปัจจุบันทางทีมงานได้ร่วมกับร้านอาหารเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในเมืองเจียอี้ ไม่เพียงแค่จัดแผงลอย ให้ทุกคนมีโอกาสได้ลิ้มรสอาหารต่างประเทศเท่านั้น ยังได้มีการทำแผนที่ร้านอาหารเอเชียตะวันออกเฉียงใต้พร้อมทำบัตรคูปองลดราคา หวังให้ผู้บริโภคได้รู้จักชีวิตประจำวันของผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ในการเปิดร้านอาหารสุดพิเศษนี้

“ค่ายวัฒนธรรมทำให้ฉันรู้ถึงคุณค่าของสถานะตัวเอง” จัวเจี๋ยหรงพูด เมื่อก่อน ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่รุ่นที่ 2 สำหรับฉันแล้ว ก็เหมือนกับการที่กินเลี้ยงมือเย็นแล้วก็ผ่านไปเท่านั้นไม่ได้มีความหมายอะไรมากมาย และก็ไม่ได้สำคัญอะไรด้วย “หลังจัดค่ายวัฒนธรรม ฉันถึงรู้ว่า ที่แท้ยังมีคนที่เป็นเหมือนฉันอีกตั้งมากมาย”

อาจารย์มหาลัยจงเจิ้งเคยถามสมาชิกในทีมว่า อยากทำสิ่งนี้ต่อไปไหม “ถึงแม้ว่าการเตรียมงานก่อนล่วงหน้านั้นมันจะลำบากมาก แต่ถ้าอยากจะผลักดันวัฒนธรรม แน่นอนว่าการจัดงานเพียงครั้งเดียวคงไม่พอหรอก” “เราหวังว่าจะสามารถคอยเคียงข้างจนผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่และผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่รุ่นที่ 2 กล้าที่จะลุกขึ้นมาบอกว่าตัวเองเป็นผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ด้วยตนเอง ให้พวกเขากล้าที่จะค้นหารากเหง้าต้นกำเนิด และแบ่งปันวัฒนธรรมอันโดดเด่นนี้ นี่คือทิศทางในอนาคตของเรา”

ข่าวเด่นประเด็นร้อน

:::
回到頁首icon
Loading