เหตุการณ์การติดเชื้อแบบคลัสเตอร์ในโรงงานอิเล็กทรอนิกส์เมืองเหมียวลี่นั้นใกล้จะถึงศูนย์แล้ว เมื่อเร็วๆนี้ ผู้อำนวยการสำนักบริหารประเทศคุณซูเจินชาง (蘇貞昌) ได้ตรวจสอบการเสริมสร้างความเข้มแข็งในการป้องกันการแพร่ระบาด และชี้ให้เห็นถึง 3 บทเรียนที่ต้องจำให้ขึ้นใจ ได้แก่ สุขภาพแรงงาน ความยากลำบากในการแยกโรงงานออกจากชุมชน และ ความต้องการจัดส่งวัคซีน นอกจากจะเดินทางไปให้กำลังใจเพื่อนร่วมงานเป็นพิเศษแล้ว คุณซูเจินชางยังห่วงใยและขอบคุณพี่น้องแรงงานข้ามชาติในท้องที่ที่ทำงานอย่างหนักเพื่อไต้หวันมาอย่างยาวนานอีกด้วย
อ่านข่าวเพิ่มเติม : เมืองแรกในประเทศ! เถาหยวนสั่งปิดให้บริการ "ร้านเสริมสวย ร้านทำเล็บและร้านต่อขนตา" เริ่มตั้งแต่ 4 มิถุนายน
ซูเจินชางหวังที่จะเรียนรู้ 3 บทเรียนของการติดเชื้อคลัสเตอร์/ภาพจาก สำนักบริหารประเทศ
ผู้อำนวยการสำนักบริหารประเทศคุณซูเจินชางกล่าวว่า มี 3 บทเรียนที่ต้องเรียนรู้จากการระบาดในโรงงานอิเล็กทรอนิกส์ ประการแรก ผู้มีความสามารถเป็นสิ่งสำคัญที่สุด คนงานไม่มีการแบ่งสัญชาติ ต้องใช้มาตรฐานสูงสุดในการรักษาสุขภาพ เพื่อให้การผลิตสามารถดำเนินการไปได้ตามปกติ ดังนั้น กระทรวงแรงงานและกระทรวงเศรษฐกิจ จึงให้ความสำคัญกับแรงงานในด้านการทำงาน การกลับสู่หอพัก รวมถึงการรับประทานอาหาร ต้องดูแลใส่ใจอย่างทั่วถึง มิเช่นนั้นอาจเกิดความรุนแรงที่มิอาจคาดการณ์ได้
อ่านข่าวเพิ่มเติม : ใส่ใจกับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด ในการเดินทางด้วยรถไฟทั้งสองในช่วงวันหยุดยาว
ซูเจินชางตรวจสอบโรงงานอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมหวังว่าจะจดจำ 3 บทเรียนของการติดเชื้อคลัสเตอร์ให้ขึ้นใจ /ภาพจาก "ยูไนเต็ด เดลินิวส์"
ประการที่สอง โรงงานและชุมชนแยกจากกันไม่ได้ โชคดีที่ตัดสินใจถูกต้องตั้งแต่แรก โดยได้มีการแยกพื้นที่และสถานที่ที่เกี่ยวข้องต่างๆออกตามความเสี่ยง จึงสามารถควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดจากโรงงานไม่ให้กระจายสู่ชุมชนได้ ประการที่สาม คือ ความต้องการวัคซีน ทั่วโลกกำลังเร่งรีบจัดหาวัคซีนให้กับประชาชน ไต้หวันเองก็ได้ซื้อวัคซีนล่วงหน้าเมื่อปีที่แล้ว แต่วัคซีนบางตัวมาไม่พร้อมตามกำหนด ล่าสุดวัคซีนมาถึงไต้หวันแล้ว โดยวัคซีนนี้ได้รับความช่วยเหลือจากสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น ข่าวดีต่อไปคือทุกคนจะได้รับวัคซีนอย่างแน่นอน