ชายแซ่อู๋อายุ 70 ปีในเมืองไถจงได้รู้จักกับหญิงชาวไทยทางอินเทอร์เน็ตและบอกว่าจะช่วยหญิงสาวรายนั้นในการเปิดร้านในประเทศไทย เมื่อนายอู๋เดินทางไปโอนเงินจำนวน 30,000 เหรียญไต้หวันที่ธนาคาร พนักงานธนาคารพบว่าเขาน่าจะตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพ จึงแจ้งตำรวจเพื่อเข้าให้ความช่วยเหลือในที่เกิดเหตุทันที และสามารถช่วยนายอู๋รอดพ้นจากกับดักกลุ่มมิจฉาชีพสำเร็จ
ตำรวจเมืองไทจงเปิดเผยว่า ชายแซ่อู๋ได้พบกับหญิงไทยอายุเพียง 27 ปีทางอินเทอร์เน็ต พวกเขาได้มีการนัดพบเจอกันระหว่างเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทย หญิงสาวรายนั้นบอกว่าตนวางแผนที่จะเริ่มต้นธุรกิจด้วยการเปิดร้าน แต่เธอยังขาดเงินอยู่ประมาณ 30,000 เหรียญไต้หวัน ชายคนนั้นตกลงที่จะจัดหาเงินทุนหลังจากรู้เรื่องนี้ และได้เดินทางไปทำการโอนเงินที่ธนาคารทันที
อ่านข่าวอื่นเพิ่มเติม : TPASS มาแล้ว บัตรโดยสารรายเดือนเวอร์ชั่นใหม่มีโปรหรือซื้อได้ที่ไหนบ้างดูที่เดียวจบ
ชายไต้หวันโดนหญิงไทยหลอกโอนเงินให้ เพื่อไปเปิดร้านทำธุรกิจ ภาพ/นำมาจากเฟสบุ๊ก全國即時報
เมื่อตำรวจบอกกับชาวผู้นั้นว่านี่คือกับดักของกลุ่มมิจฉาชีพ ชายคนนั้นแสดงบันทึกการแชทกับหญิงไทย ซึ่งพวกเขาจะเรียกกันว่า Darlingชายอู๋คิดว่าจำนวนเงินที่โอนให้เป็นจำนวนไม่มาก จึงบอกตำรวจและพนักงานธนาคารไม่ต้องวิตกกังวลจนเกินไปพร้อมยืนกรานที่จะโอนเงินไปยังประเทศไทยเช่นเดิม โชคดีที่ธนาคารพบว่าบัญชีที่ไทยผิดปกติ จึงไม่สามารถดำเนินการโอนเงินให้ได้ สามารถช่วยนายอู๋โอนเงินให้มิจฉาชีพได้เป็นการชั่วคราว
อ่านข่าวอื่นเพิ่มเติม : นำเข้าเนื้อสัตว์และพืชอย่างผิดกฎหมายมีโทษปรับ 200,000 ร่วมป้องกันโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรด้วยกัน
อย่างไรก็ตาม ในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน ชายแซ่อู๋ได้เดินทางมาที่ธนาคารเพื่อพยายามโอนเงินอีกครั้ง ตำรวจรีบไปที่จุดเกิดเหตุหลังจากได้รับ แจ้งว่าชายคนนั้นพยายามเปลี่ยนเสื้อผ้า เพื่อปิดบังตัวตนของเขา หวังที่จะมาทำธุรกรรมโอนเงินให้หญิงไทย ตำรวจรีบร่วมมือกับเพื่อนร่วมงาน 3 คนเพื่ออธิบายให้ชายคนดังกล่าวทราบว่ากลุ่มมิจฉาชีพจะเปลี่ยนบัญชีใหม่ทันทีหลังจากที่บัญชีเดิมถูกอายัด ทำให้ชายคนนั้นเข้าใจ พร้อมต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ห้ามปรามเขาไม่ให้โอนเงินถึง 2 ครั้ง จนเขาสามารถไม่ตกเป็นเหยื่อกลุ่มมิจฉาชีพได้สำเร็จ