:::

โดนย้ายออกจากทะเบียนบ้านหลังเดินทางออกไต้หวันเกิน 2 ปีคืออะไร ใช่การสูญเสียสัญชาติไหม

“การย้ายชื่อออกจากทะเบียนบ้าน” ไม่ใช่การเสียสัญชาติหรือสูญเสียการมีทะเบียนบ้าน ภาพ/นำมาจากคลังภาพ Pixabay
“การย้ายชื่อออกจากทะเบียนบ้าน” ไม่ใช่การเสียสัญชาติหรือสูญเสียการมีทะเบียนบ้าน ภาพ/นำมาจากคลังภาพ Pixabay

เนื่องจากผลกระทบของโรคระบาด พลเมืองชาวไต้หวันที่เดินทางออกนอกประเทศมากกว่า 2 ปีไม่สามารถเดินทางกลับประเทศได้ ตามบทบัญญัติของกฎหมายทะเบียนบ้าน หากคุณเดินทางออกจากไต้หวันนานกว่าสองปี คุณจะต้องลงทะเบียนการย้ายออกจากทะเบียนบ้าน สำหรับเรื่องนี้ สำนักงานการบริหารการทะเบียนราษฎรชี้แจงว่า “การย้ายชื่อออกจากทะเบียนบ้าน” ประชาชนมักเข้าใจผิดว่าเป็นการเสียสัญชาติหรือไม่มีทะเบียนบ้านในไต้หวัน ซึ่งไม่ใช่ความหมายแบบนี้

อ่านข่าวอื่นเพิ่มเติม : 1 มี.ค ยกเลิกให้ชุดตรวจ ATK แก่นักเดินทางที่เดินทางเข้าไต้หวันและผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อยืนยัน

เนื่องจาก “โรคระบาดหนึ่งพันวัน 130000 คนถูกย้ายชื่อออกจากทะเบียนบ้าน ทำให้กลับบ้านไม่ได้” ทั้งนี้สำนักงานการบริหารการทะเบียนราษฎร กระทรวงมหาดไทยประกาศอีกครั้งว่า ปัจจุบันกฎหมายการทะเบียนราษฎรไม่มีระบบ “การย้ายชื่อออกจากทะเบียนบ้าน” นอกจากนี้การย้ายชื่อออกจากทะเบียนบ้านอาจทำให้คนเข้าใจผิดคิดว่า ตนเสียสัญชาติหรือสูญเสียการมีทะเบียนบ้าน ตาม “กฎหมายทะเบียนบ้าน” มาตราที่ 16 ข้อ 3 ที่กำหนดว่า พลเมืองไต้หวันเดินทางออกนอกประเทศมากกว่า 2 ปี ควรยื่นย้ายออกจากทะเบียนบ้าน ทะเบียนบ้านย้ายออกไปต่างประเทศเป็นระบบจัดการทะเบียนบ้านเท่านั้น การย้ายออกจากทะเบียนบ้านไม่ส่งผลกระทบต่อสถานะพลเมืองประเทศ

โปสเตอร์ประชาสัมพันธ์การย้ายเข้าในทะเบียนบ้าน ภาพ/โดย กระทรวงมหาดไทยไต้หวัน

อ่านข่าวอื่นเพิ่มเติม : ลาตรวจครรภ์ไม่ถือเป็นการลาป่วย แรงงานต่างชาติมีสิทธิ์ลาคลอด ลาเลี้ยงบุตรหลังคลอดได้

สำนักงานการบริหารการทะเบียนราษฎรชี้แจงว่า พลเมืองไต้หวันที่ออกนอกประเทศมากกว่า 2 ปีถูกย้ายออกจากทะเบียนบ้าน ต้องการดำเนินการลงทะเบียนย้ายเข้า (กลับเข้าทะเบียนบ้านอีกครั้ง) เพียงนำหนังสือเดินทางสาธารณรัฐจีนไต้หวันหรือเอกสารหลักฐานการเข้าประเทศ และเตรียมบัตรประจำตัวประชาชน ใบทะเบียนบ้านที่จะย้ายเข้า และหนังสือเดินทางที่กล่าวมา มีเจ้าตัว เจ้าของบ้านหรือบุคคลที่รับมอบหมายไปทำเรื่องย้ายเข้าที่สำนักงานทะเบียนราษฎร์ ก็สามารถดำเนินการได้

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ข่าวเด่นประเด็นร้อน

:::
回到頁首icon
Loading