ผู้โดยสารหรือผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรภายใต้เงื่อนไข 11 ข้อ (ภาพจาก ศูนย์ข้อมูล Covid-19)
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมของไทยเปิดเผยว่า สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท). ได้ออกประกาศขยายเงื่อนไขการอนุญาตให้บริการการบินระหว่างประเทศได้ ทั้งอากาศยานบินผ่าน บินเข้าหรือออกนอกราชอาณาจักร หรือขึ้นลงในราชอาณาจักร เมื่อได้รับการอนุญาตการบินจากสานักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ซึ่งลงนามเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2563 โดยนายจุฬา สุขมานพ ผู้อานวยการสานักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เวลา 00.01 น. ของวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 เป็นต้นไป
โดยเนื้อหาในประกาศระบุว่า ปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในต่างประเทศยังคงมีความรุนแรง จึงจำเป็นต้องกำหนดมาตรการจำกัดการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ให้สอดคล้องกับความสามารถในการ จัดการคัดกรองของพนักงานเจ้าหน้าที่หรือเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อตามมาตรการป้องกันโรค และเพื่อการควบคุมและป้องกันมิให้เกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่ในประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ
กพท. จึงออกประกาศกำหนดเงื่อนไขอนุญาตให้ อากาศยานบินผ่าน บินเข้าหรือออกนอกราชอาณาจักร หรือขึ้นลงในท่าอากาศยานที่อยู่ในราชอาณาจักรที่ให้บริการการบินระหว่างประเทศได้ เมื่อได้รับการอนุญาตการบินจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ประกอบด้วย 1.อากาศยานราชการหรือที่ใช้ในราชการทหาร (State or Military aircraft) / 2.อากาศยานที่ขอลงฉุกเฉิน (Emergency landing) / 3.อากาศยานที่ขอลงทางเทคนิค (Technical landing) โดยไม่มีผู้โดยสารออกจากเครื่อง / 4.อากาศยานที่ทำการบินเพื่อให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรม ทำการบินทางการแพทย์ หรือการขนส่งสิ่งของเพื่อสงเคราะห์แก่ผู้ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด –19 (Humanitarian aid, medical and relief flights) / 5.อากาศยานที่ได้รับอนุญาตให้ทำการบินรับส่งบุคคลกลับประเทศไทยหรือกลับภูมิลำเนา (Repatriation) และ 6.อากาศยานขนส่งสินค้า (Cargo aircraft) เท่านั้น
สำหรับอากาศยานขนส่งคนโดยสารที่จะทำการบินผ่านบินเข้า-ออกนอกราชอาณาจักร หรือขึ้นลงในท่าอากาศยานในราชอาณาจักรที่ให้บริการการบินระหว่างประเทศ จะได้รับอนุญาตการบินจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เฉพาะผู้โดยสารหรือผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรภายใต้เงื่อนไข 11 ข้อ คือ
1.ต้องเป็นผู้มีสัญชาติไทย
2.ผู้ที่มีเหตุยกเว้นหรือกรณีที่นายกรัฐมนตรี หรือหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไข สถานการณ์ฉุกเฉินกำหนด อนุญาต หรือเชิญให้เข้ามาในราชอาณาจักร ได้ตามความจำเป็น โดยอาจกำหนด เงื่อนไขและเงื่อนเวลาก็ได้
3.รวมถึงผู้ไม่มีสัญชาติไทยซึ่งเป็นคู่สมรส บิดามารดา หรือบุตรของผู้มีสัญชาติไทย
4.ผู้ไม่มีสัญชาติไทยซึ่งมีใบสำคัญถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักรหรือได้รับอนุญาตให้มี ถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร
5.ผู้ไม่มีสัญชาติไทยซึ่งมีใบอนุญาตทำงานหรือได้รับอนุญาตให้เข้ามาทำงาน ในราชอาณาจักรตามกฎหมาย ตลอดจนคู่สมรสหรือบุตรของบุคคลดังกล่าว
6.ผู้ขนส่งสินค้าตามความจำเป็น แต่เมื่อเสร็จภารกิจแล้วให้กลับออกนอกราชอาณาจักรไปโดยเร็ว
7.ผู้ควบคุมยานพาหนะหรือเจ้าหน้าที่ประจำยานพาหนะซึ่งจำเป็นต้องเดินทางเข้ามา ตามภารกิจและมีกำหนดเวลาเดินทางออกนอกราชอาณาจักรชัดเจน
8.ผู้ไม่มีสัญชาติไทยซึ่งเป็นนักเรียนหรือนักศึกษาของสถานศึกษาในประเทศไทย ที่ทางการไทยรับรอง ตลอดจนบิดามารดาหรือผู้ปกครองของบุคคลดังกล่าว
9.ผู้ไม่มีสัญชาติไทยซึ่งมีความจำเป็นต้องเข้ามารับการตรวจรักษาพยาบาลในประเทศไทย และผู้ติดตามของบุคคลดังกล่าว แต่ต้องไม่เป็นกรณีเข้ามาเพื่อการรักษาพยาบาลโรคโควิด –19 /
10.บุคคลในคณะทูต คณะกงสุล องค์การระหว่างประเทศ หรือผู้แทนรัฐบาล หรือหน่วยงานของรัฐต่างประเทศซึ่งมาปฏิบัติงานในประเทศไทย หรือบุคคลในหน่วยงานระหว่างประเทศอื่น ตามที่กระทรวงการต่างประเทศอนุญาตตามความจำเป็น ตลอดจนคู่สมรส บิดามารดา หรือบุตรของบุคคลดังกล่าว
11.ผู้ไม่มีสัญชาติไทยซึ่งได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรตามข้อตกลง พิเศษ (special arrangement) กับต่างประเทศ
ทั้งนี้ อากาศยาน และผู้โดยสารหรือผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรจะต้องปฏิบัติ ตามเงื่อนไข เงื่อนเวลาและหลักเกณฑ์ของผู้มีอำนาจตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง กฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ กฎหมายว่าด้วยการเดินอากาศและกฎหมายว่าด้วยการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่มีผลบังคับใช้ อยู่เพื่อการป้องกันโรคและจัดระเบียบจำนวนบุคคลที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรให้สอดคล้องกับ ความสามารถของเจ้าหน้าที่ในการคัดกรองและการจัดสถานที่ไว้กักกัน (quarantine)
แหล่งที่มา กรมประชาสัมพันธ์
ผู้โดยสารหรือผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรภายใต้เงื่อนไข 11 ข้อ (ภาพจาก ศูนย์ข้อมูล Covid-19)