สถานีตำรวจเมืองเถาหยวน สาขาจงลี่ ปราบปรามกลุ่มมิจฉาชีพออนไลน์ 2 คดีภายในวันเดียว โดยทั้ง 2 คดีนี้เกิดพร้อมกันภายในเวลาเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น หนึ่งในผู้เสียหายเป็นผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ชาวอินโดนีเซีย ขณะที่ธนาคารกำลังเตรียมโอนเงิน นายธนาคารสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติจึงโทรหาเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ และสามารถหยุดยั้งได้ทันเวลา
อ่านข่าวอื่นเพิ่มเติม : ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่สามารถรับบริการตรวจคัดกรองวัณโรคได้ฟรี
ผู้อำนวยการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จงจิ่งคุน ถ่ายทำวิดีโอประชาสัมพันธ์ต่อต้านกลุ่มมิจฉาชีพ ภาพ／นำมาจาก全民防詐宣導影片
สถานีตำรวจเมืองเถาหยวน สาขาจงลี่ กล่าวว่า หญิงผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ชาวอินโดนีเซียแซ่เถียนรายนี้ ได้รู้จักกับชายชาวอินโดนีเซียที่อ้างว่าเป็นอดีตเพื่อนร่วมงาน ทั้งสองคุยกันถูกคอ ผู้ชายจึงใช้โอกาสนี้ยืมเงิน 100,000 เหรียญไต้หวัน โดยอ้างว่าที่บ้านมีเหตุจำเป็นต้องใช้เงินด่วน เถียนตอบตกลงพร้อมเดินทางไปโอนเงินที่ธนาคาร เมื่อเจ้าหน้าที่ธนาคารสอบถาม เถียนบอกว่าเธอต้องการโอนเงินไปที่อินโดนีเซีย แต่พนักงานธนาคารตรวจสอบพบว่า บัญชีของอีกฝ่ายอยู่ในไต้หวัน พนักงานธนาคารจึงได้โทรหาเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที หลังจากที่นางเถียนรู้ว่าเธอถูกหลอกให้โอนเงิน เธอขอบคุณเจ้าหน้าที่ธนาคารที่คอยดูแลเอาใจใส่และขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ให้ความช่วยเหลือ ในอนาคตเธอจะระวังในการหาเพื่อนทางออนไลน์ให้มากขึ้น
สายด่วนป้องกันกลุ่มมิจฉาชีพ 165 ภาพ／นำมาจาก警政署反詐騙專案
เพื่อป้องกันกลุ่มมิจฉาชีพ สำนักงานตำรวจ กระทรวงมหาดไทย ได้จัดตั้ง “สายด่วนป้องกันกลุ่มมิจฉาชีพ 165” หากคุณพบกลุ่มมิจฉาชีพสามารถโทรไปแจ้งที่สายด่วนให้คำปรึกษาต่อต้านกลุ่มมิจฉาชีพ 165 ได้ทันที
อ่านข่าวอื่นเพิ่มเติม : ตั้งแต่วันที่ 17 เม.ย. ใช้ระบบขนส่งสาธารณะไม่ต้องสวมหน้ากากอนามัยก็ได้
เพื่อรับมือกับปัญหากลุ่มมิจฉาชีพหลอกลวงประชาชน นายจงจิ่งคุน ผู้อำนวยการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองยังได้ถ่ายทำวิดีโอต่อต้านกลุ่มมิจฉาชีพเป็นการส่วนตัว เพื่อเตือนให้พี่น้องผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ให้ระวังกลยุทธ์ของกลุ่มมิจฉาชีพ อย่ามอบสมุดบัญชีเงินฝากหรือรหัสผ่านการทำธุรกรรมให้กับบุคคลที่ไม่รู้จักหรือไม่คุ้นเคย มิเช่นนั้น กลุ่มมิจฉาชีพอาจนำไปใช้ทำธุรกรรมได้ง่าย ท่านสามารถรับชมวิดีโอได้ที่ ผู้อำนวยการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จงจิ่งคุน ถ่ายทำวิดีโอประชาสัมพันธ์ต่อต้านกลุ่มมิจฉาชีพ
