เมืองอัจฉริยะอมตะไทเป (AMATA Taipei Smart City)เป็นโครงการที่สร้าง ภายใต้ความร่วมมือระหว่าง บริษัท Sinotech Engineering Consultants, Ltd. ของไต้หวัน กับ บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) ประเทศไทย ซึ่งได้เปิดอย่างเป็นทางการไปแล้ว เมื่อวันที่ 10 กันยายนที่ผ่านมา นายวิกรม กรมดิษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานกรรมการกลุ่มธุรกิจอมตะ ได้ให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนว่า เมืองอัจฉริยะอมตะไทเป ก่อตั้งขึ้นเพื่อให้บริการ และจัดเตรียมสถานที่ที่ดีที่สุด สำหรับต้อนรับนักลงทุนจากไต้หวันที่จะมาลงทุนในประเทศไทย
อ่านข่าวเพิ่มเติม:บริษัทอุปกรณ์ทางการแพทย์ชั้นนำไต้หวัน ร่วมงาน “MEDICAL FAIR THAILAND 2023”
นายวิกรม กรมดิษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานกรรมการกลุ่มธุรกิจอมตะ เคยมาศึกษาต่อที่ไต้หวัน ภาพ/จากบริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) ประเทศไทย
เมืองอัจฉริยะอมตะไทเป (AMATA Taipei Smart City)ตั้งอยู่ในระเบียงระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) มีพื้นที่ราว 13500 ตารางกิโลเมตร หรือเทียบเท่ากับพื้นที่ 3 จังหวัดรวมกัน นายวิกรม กรมดิษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานกรรมการกลุ่มธุรกิจอมตะ เผยว่า จากเมืองอัจฉริยะอมตะไทเป ไปถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ใช้เวลาในการเดินทางเพียงประมาณ 20 นาทีเท่านั้น และไปที่ท่าเรือน้ำลึกใช้เวลาราว 40 นาที นอกจากนี้ ยังมีโครงการรถไฟความเร็วสูง ซึ่งจะเปิดให้บริการในอนาคต ด้วยปัจจัยข้างต้น จึงเหมาะที่จะใช้เป็นศูนย์วิจัยและพัฒนาของไต้หวันในอนาคต ซึ่งปัจจุบันศูนย์บริการของเมืองอัจฉริยะอมตะไทเปเริ่มมีการเปิดใช้งานแล้ว โดยคาดว่าโครงการเฟสแรกจะแล้วเสร็จในเดือนมิถุนายนปีหน้า(2024)
นายวิกรม กรมดิษฐ์ กล่าวว่า อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนในประเทศไทยมีความก้าวหน้าอย่างมาก นอกจากนี้ ทางรัฐบาลไทย ยังได้มีการดำเนินโครงการสนับสนุนอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์อย่างเต็มรูปแบบ และอุตสาหกรรมการแพทย์ของไทยใหญ่เป็นอันดับสองของโลก รองจากสหรัฐอเมริกาเท่านั้น โดยเขาหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ในบรรดาประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศไทยจะเป็นเป้าหมายหลัก ที่นายทุนไต้หวันให้ความสำคัญ และเลือกมาลงทุนเป็นอันดับแรก เนื่องจากประเทศไทย มีจุดเด่นในเรื่องของอัตราภาษีส่งออกที่ต่ำ ซึ่งจะเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้ธุรกิจไต้หวันได้ นอกจากนี้ คนไทยยังมีความเป็นมิตรสูง ไม่อิจฉาความสำเร็จของคนอื่น ไม่ต่อต้านคนเชื้อสายจีน ประกอบกับการที่เขาเคยมาศึกษาต่อที่ไต้หวัน ทำให้เขามีความรู้สึกผูกพันกับไต้หวัน และมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะต้อนรับชาวไต้หวันให้เข้ามาประกอบธุรกิจในประเทศไทย