สำนักงานอัยการสูงสุดของไต้หวันจัดงานแถลงข่าวเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา อัยการจะทำรายงานการวิเคราะห์สถานการณ์กลุ่มมิจฉาชีพในปี 2566 รายงานชี้ให้เห็นว่าห้องคอมพิวเตอร์ของกลุ่มมิจฉาชีพ เป็นจุดเริ่มต้นของการฉ้อโกงด้านโทรคมนาคม นอกจากนี้ กลุ่มมิจฉาชีพยังใช้หมายเลขโทรศัพท์มือถือและแพลตฟอร์มการช็อปปิ้งออนไลน์เป็นช่องทางการฟอกเงินอีกด้วย ทั้งนี้ เพื่อยับยั้งการฉ้อโกงอย่างมีประสิทธิภาพจำเป็นต้องตรวจสอบแหล่งที่มา อัยการยังแนะนำให้ตั้งค่าคุณสมบัติและจำกัดปริมาณสำหรับลูกค้าองค์กรในการสมัครหมายเลขโทรศัพท์ และสร้างระบบหยุดการโทรเชิงป้องกัน
อ่านข่าวเพิ่มเติม : การทำงานกลางแจ้งในช่วงฤดูร้อนเสี่ยงอันตราย กระทรวงแรงงานสุ่มบริษัทที่มีความเสี่ยงสูง
ต่อสู้กับกลุ่มมิจฉาชีพทางโทรคมนาคม สำนักงานอัยการสูงสุดจัดตั้งแพลตฟอร์มป้องกันทุกรูปแบบ ภาพ／นำมาจากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ台灣高等檢察署
อัยการชี้ตามคดีที่ผ่านมากลุ่มมิจฉาชีพจะตั้งบริษัทเชลล์ก่อน จากนั้นใช้ Modem Pool รวบรวม “รหัสยืนยันตัวตน” เพื่อสมัครบัญชีทางอิเล็กทรอนิกส์ แพลตฟอร์มการชำระเงินและแพลตฟอร์มการช็อปปิ้งออนไลน์ และสร้างธุรกรรมปลอมและผลิตภัณฑ์ปลอม และสร้างบัญชีเสมือนสำหรับเหยื่อ เพื่อให้เหยื่อส่งเงินและการฟอกเงินที่ตามมาหลังจากสร้างคำสั่งซื้อออนไลน์ นอกจากนี้กลุ่มมิจฉาชีพยังใช้ DMT (Digital Mobile Trunk) เป็นจุดพัก เพื่อโทรหลอกลวงประชาชนโดยไม่ต้องกังวลว่าจะถูกจับได้
อ่านข่าวเพิ่มเติม : ชุดการบรรยายเรื่อง “ระยะห่างระหว่างชาวไต้หวันกับชาวต่างชาติ” ทำความรู้จักผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่จากมุมต่างๆ
เพื่อยับยั้งการฉ้อโกงทางโทรคมนาคม สำนักงานอัยการสูงสุดยังได้จัดตั้ง .แพลตฟอร์มการปรึกษา” ร่วมกับคณะกรรมการกำกับดูแลทางการเงิน คณะกรรมการการสื่อสารแห่งชาติ (NCC) กระทรวงเทคโนโลยีดิจิทัล และกระทรวงเศรษฐกิจ เพื่อบูรณาการอย่างเต็มรูปแบบ ต่อสู้กับกลุ่มมิจฉาชีพอย่างแข็งขัน
