เมื่อเร็วๆ สำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ได้ประกาศ “มาตรการควบคุมการใช้สิ่งของแบบครั้งเดียวทิ้งในอุตสาหกรรมโรงแรมและที่พัก”โดยตั้งแต่ วันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 2025 เป็นต้นไป จะไม่อนุญาตให้ผู้ประกอบการโรงแรมและที่พัก จัดเตรียมแชมพู ครีมนวดผม เจลอาบน้ำ โลชั่น ที่มีความจุน้อยกว่า 180 มล. รวมทั้งผลิตภัณฑ์ดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคล อาทิ เช่น แปรงสีฟัน หวี ยาสีฟัน และมีดโกน ไว้ภายในห้องอีกต่อไป หากฝ่าฝืนอาจถูกปรับสูงสุด 6,000 เหรียญไต้หวัน สำหรับผู้เข้าพักที่ลืมพกมา ยังคงสามารถหาซื้อ หรือขอจากที่พักได้ ซึ่งคาดว่ามาตรการนี้ จะส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการโรงแรมและที่พักจำนวน 14,000 ราย
อ่านข่าวเพิ่มเติม:ไถหนานประกาศห้ามใช้แก้วพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป
ห้ามผู้ประกอบการโรงแรมและที่พัก จัดเตรียมผลิตภัณฑ์ดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคล อาทิ เช่น แปรงสีฟัน หวี ยาสีฟัน และมีดโกน ไว้ภายในห้อง ภาพ/จากสำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อม
สำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมระบุว่า ในอนาคตผู้ประกอบการต้องใช้แชมพูและเจลอาบน้ำขวดใหญ่แทนการใช้ขวดเล็ก และห้ามไม่ให้จัดหาอุปกรณ์อาบน้ำหรือผลิตภัณฑ์บำรุงที่มีความจุน้อยกว่า 180 มล. รวมทั้งหวี แปรงสีฟัน ยาสีฟัน มีดโกน ตลอดจนอุปกรณ์เครื่องใช้แบบใช้ครั้งเดียวทิ้งอื่นๆ ไว้ภายในห้องพัก หากฝ่าฝืนจะถูกปรับตั้งแต่ 1,200 - 6,000 ตามกฎหมายว่าด้วยการบริหารจัดการขยะและของเสีย ทั้งนี้ สิ่งอำนวยความสะดวกเสริม เช่น สปา สระว่ายน้ำ ห้องออกกำลังกาย ไม่จัดอยู่ในขอบเขตของการควบคุม
สำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมคาดว่า การดำเนินการตาม “มาตรการควบคุมการใช้สิ่งของแบบครั้งเดียวทิ้งในอุตสาหกรรมโรงแรมและที่พัก”จะสามารถช่วยลดการใช้อุปกรณ์เครื่องใช้ขวดเล็กมากกว่า 460 ล้านขวดในปีหน้า ช่วยลดน้ำหนักขยะลงไปประมาณ 2,100 ตัน ซึ่งเทียบเท่าได้กับการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 2,500 ตันต่อปี นอกจากนี้ การใช้ภาชนะบรรจุขวดใหญ่แทน ยังส่งผลให้การใช้พลาสติกโดยรวมลดลงประมาณ 30% สำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมเน้นย้ำอีกว่า ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมสามารถค่อยๆ ปรับตัว เนื่องจากยังมีระยะห่างนานถึงหนึ่งปี ก่อนที่กฎระเบียบจะมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ