ภายใต้สถานการณ์โรคระบาดของไต้หวันที่ยังคงทวีความรุนแรง เด็ก ๆ หยุดไปโรงเรียน แต่ไม่หยุดที่จะเรียนรู้ เวลาที่ผู้ปกครองและเด็กอยู่ด้วยกันที่บ้านก็ยิ่งมากขึ้น ในสถานการณ์ที่ชีวิตไม่อาจหลีกเลี่ยงผลกระทบจากสถานการณ์โรคระบาดเช่นนี้ ประชาชนทุกคนในไต้หวันก็ควรร่วมมือกับรัฐบาล เพื่อให้กลับไปอยู่ในสถานการณ์ปกติโดยเร็ว ผู้เขียนของ [เว็บไซต์ข่าวรอบโลกสำหรับผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่] ก็ได้ติดต่อไปยังคุณแม่ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ที่มาจากเวียดนาม เมื่อวันที่ 7 มิถุนายนตอนเช้า ในวันที่สภาบริหารประกาศยกระดับการเฝ้าระวังของทั้งประเทศเป็นระดับ 3
ผลกระทบของการยกระดับการเฝ้าระวังโรคระบาด
การยกระดับการเฝ้าระวังโรคระบาดเป็นระดับ 3 ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของคนหลาย ๆ คน ผู้ปกครองที่เป็นผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ก็ต้องเผชิญหน้ากับปัญหามากยิ่งกว่า ไม่เพียงแต่ปัญหาด้านกำแพงภาษาแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นคือการไม่เข้าใจในสถานการณ์โรคระบาดทำให้ไม่สามารถเตรียมตัวให้พร้อมรับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ [เว็บไซต์ข่าวรอบโลกสำหรับผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่] ก็ได้พูดคุยกับ เฉินซื่อเทียนเอ๋อ(陳氏天鵝) ผู้อาศัยอยู่ในเมืองไทเป เธอมาอยู่ไต้หวันกว่า 15 ปีแล้ว มีลูกสาว 2 คน เรียนอยู่ม.4 และ อนุบาล เทียนเอ๋อมีความคุ้นเคยกับไต้หวันพอสมควร ไต้หวันเปรียบเสมือนบ้านหลังที่ 2 ของเธอ ภาษาจีนของ เทียนเอ๋อพูดได้อย่างคล่องแคล่ว แต่ในด้านของการอ่านและเขียนยังคงมีปัญหาอยู่บ้าง ผู้เขียนของ [เว็บไซต์ข่าวรอบโลกสำหรับผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่] ก็ได้สอบถามถึงชีวิตในช่วงของการยกระดับการเฝ้าระวังเป็นระดับ 3 ว่าพบปัญหาความยากลำบากอะไรบ้างไหม เทียนเอ๋อหัวเราะพร้อมกับตอบว่า “ยังไงก็ต้องได้รับผลกระทบ.... แต่ก็ทำไรไม่ได้ สถานการณ์ตอนนี้ค่อนข้างพิเศษ” เทียนเอ๋อย้ำหลายครั้งพอสมควรว่า “อดทนอีกหน่อย สถานการณ์จบแล้วก็ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว”
เฉินซื่อเทียนเอ๋อและลูกสาวที่กำลังเรียนอยู่ชั้นอนุบาล (ภาพ/จากเฉินซื่อเทียนเอ๋อ)
อ่านข่าวเพิ่มเติม: รั้วโรงเรียนที่สวยงาม ผู้ตั้งถิ่นฐานชาวรัสเซีย “รังสรรค์” ชีวิตใหม่ให้แก่รั้วโรงเรียน
ต่อให้รู้สึกไม่สะดวกก็ตามที
เทียนเอ๋อก็ได้ฟังข่าวเพื่อติดตามข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์โรคระบาด โดยเธอสามารถเข้าใจเนื้อหาได้ประมาณ 80% ส่วนอีก 20% เธอก็ได้เรียนรู้มาจากลูกสาวผู้ที่กำลังเรียนอยู่ชั้นม.4 เทียนเอ๋อบอกกับ [เว็บไซต์ข่าวรอบโลกสำหรับผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่] ว่า ตอนแรกช่วงสถานการณ์โควิดกำลังทวีความรุนแรง เธอไปร้านสะดวกซื้อ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะแสกนคิวอาร์โคดอย่างไร อ่านตัวอักษรภาษาจีนก็ไม่ได้ แล้วก็ไม่รู้ว่าจะกรอกข้อมูลยืนยันตัวตนอย่างไร “ฉันก็เลยไปถามคนข้าง ๆ หรือไม่ก็พนักงาน ทุกคนก็ได้สอนฉันว่าฉันควรจะทำอย่างไร” ความช่วยเหลือที่ดีของคนไต้หวันเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ เทียนเอ๋อชอบไต้หวัน
เวลาระหว่างคนในครอบครัวที่มากขึ้น
ภายใต้สถานการณ์ที่ทั้งประเทศมีการยกระดับการเฝ้าระวังโรคระบาดเป็นระดับ 3 โรงเรียนแต่ละระดับในไต้หวันต่างก็ประกาศหยุดเรียน เทียนเอ๋อบอกว่าลูก ๆ เรียนรู้ที่บ้านก็ไม่ใช่เรื่องที่ไม่ดี ทำให้ลูก ๆ ได้มีอะไรทำที่บ้าน ถึงแม้ว่าการหยุดเรียนจะทำให้รู้สึกไม่สะดวกสบายมากขึ้น แต่ทว่ากลับกลายเป็นการเพิ่มเวลาอยู่ด้วยกันระหว่างคนในครอบครัว ได้พูดคุย เล่น และเรียนรู้กับลูกสาว ทำให้เธอรู้สึกมีความสุขมาก “ถึงแม้ว่าบางทีพวกเขาจะขี้บ่น พูดทำนองว่าไม่ได้ออกไปไหนก็เถอะ” เทียนเอ๋อพูดต่อด้วยรอยยิ้มน้อย ๆ ว่า “ชีวิตก็ยังคงต้องดำเนินต่อไป มีเวลาพูดคุยกับพวกเขามากขึ้น หรือบางทีก็ออกไปข้างนอกไปซื้ออาหารด้วยกัน”
เฉินซื่อเทียนเอ๋อและลูกสาวสองคน (ภาพ/จากเฉินซื่อเทียนเอ๋อ)
อ่านข่าวเพิ่มเติม: ศิลปินสาว Janet Jia (賈永婕) ส่งอาหารกลางวันขอบคุณเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ด้วยตนเองทุกวัน ศิลปินหลายท่านร่วมบริจาค
เอาใจเขามาใส่ใจเราร่วมใจกันก้าวผ่านสถานการณ์
เด็ก ๆ ในบ้านต้องเรียนหนังสือเป็นเวลานาน อากาศที่ร้อนอบอ้าวก็ทำให้ต้องเปิดแอร์เกือบตลอดทั้งวัน รวมทั้งงานของ เทียนเอ๋อที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โรคระบาด รายได้ที่ได้รับก็น้อยลงกว่าทุกที เทียนเอ๋อคิดว่าถึงแม้ว่าจะยากลำบาก แต่เธอในฐานะของมารดาผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ ทำสิ่งที่ควรจะทำให้ดี และปฏิบัติตามระเบียบของรัฐบาล ร่วมมือกันป้องกันโรคระบาดก็พอ “อยู่ไต้หวันเป็นเรื่องที่ดี ไม่เพียงแต่มีเงินช่วยเหลือ ยังสามารถเข้าถึงข้อมูลสถานการณ์โรคระบาดได้อย่างดี” เทียนเอ๋อพูดอย่างตั้งใจว่า “ไม่ได้มีแค่ไต้หวันที่เกิดเหตุการณ์โรคระบาดแบบนี้ หลายประเทศทั่วโลกก็เป็นเหมือนกัน...... เอาใจเขามาใส่ใจเรา เคารพซึ่งกันและกัน” สถาณการณ์โรคระบาดจะถึงเมื่อไหร่ไม่มีใครรู้ ไม่มีใครทราบว่าในอนาคตจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น ถึงแม้ว่าสถานการณ์โรคระบาดจะนำความไม่สะดวกสบายมามากมาย เทียนเอ๋อก็จะให้ความสำคัญกับช่วงเวลาที่พิเศษเช่นนี้ เธอเชื่อว่า อีกไม่นานก็จะสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติสุข