[เว็บไซต์ข่าวรอบโลกสำหรับผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่] ตามรายงานข่าวของ The Standard นอกจากร่วมร้องเพลงต้อนรับปีใหม่ เราขอชวนทุกคนมาร่วมเติมพลังใจให้สุขสดใส คลายเศร้า ไปกับ ไสหัวไปนายส่วนเกิน ภาพยนตร์แห่งรอยยิ้ม และคู่เคมีสุดน่ารักของ มิน-พีชญา วัฒนามนตรี และ อนันดา เอเวอริงแฮม ที่เตรียมเข้าฉายให้ชมพร้อมกันในโรงภาพยนตร์ไต้หวันวันที่ 19 พฤศจิกายนนี้
อ่านข่าวเพิ่มเติม: ขยายเวลามาตรการป้องกันโรคระดับ 2 ออกไปถึงวันที่ 29 พ.ย. ดูที่เดียวจบ
ไสหัวไปนายส่วนเกิน ได้แรงบันดาลใจจากเรื่องจริงของ ฉงตุ้น นักวาดการ์ตูนสาวชาวจีน ที่ต่อสู้กับโรคมะเร็งด้วยทัศนคติและการมองโลกที่สดใส นำมาดัดแปลงเป็นเรื่องราวของ ผักกาด กราฟิกดีไซเนอร์ยุคใหม่ ที่จริงๆ มองโลกในแง่ดี แต่ชีวิตอยู่ในช่วงขาลงแบบสุดๆ ทั้งเป็นมะเร็ง โดนไล่ออกจากงาน และถูกแฟนทิ้ง!
โดยมีสิ่งหนึ่งที่ทำให้ชีวิตของผักกาดไม่เลวร้ายและมืดมนเกินไปนักคือ กวินทร์ คุณหมอสุดหล่อที่ทั้งมาเยียวยาโรคร้ายและอาการเจ็บไข้ทางใจให้หายดี รวมทั้งช่วยเยียวยาความเศร้าให้กับผู้ชมจากสถานการณ์วิกฤตที่เลวร้ายในช่วงปีที่ผ่านมาไปพร้อมๆ กัน
ตัวละครผักกาดนับว่าเป็นผลงานการแสดงครั้งแรกของมิน หลังออกจากช่องมากสีมาลุยงานนักแสดงอิสระอย่างเต็มตัว และยังเป็นครั้งแรกที่เธอได้ประกบคู่กับ อนันดา เอเวอริงแฮม พระเอกมากความสามารถที่เราไม่ได้เห็นเขาบนจอภาพยนตร์มาเป็นเวลา 3 ปีเต็ม นับจากผลงานเรื่องสุดท้ายอย่าง สิงสู่ ที่ออกอากาศเมื่อปี 2561
อนันดา เอเวอริงแฮม พระเอกมากความสามารถที่เราไม่ได้เห็นเขาบนจอภาพยนตร์มาเป็นเวลา 3 ปีเต็ม ภาพจาก／เฟสบุ๊ค CATCHPLAY
อ่านข่าวเพิ่มเติม: ข่าวดี! แรงงานต่างชาติเดินทางเข้าประเทศได้แล้ว อนุญาตให้แรงงานต่างชาติจากอินโดนีเซียเข้าก่อน
เสริมทัพด้วยเหล่าแก๊งเพื่อนอารมณ์ดี เจี๊ยบ ลลนา, ซานิ นิภาภรณ์, เมโกะ ชนนิกานต์ และ ไต้ฝุ่น กนกฉัตร ที่จะมาร่วมเป็นพยานรักให้กับทั้งคู่ และได้ สมเกียรติ วิทุรานิช ผู้กำกับที่เคยพาใครต่อใครไปร่วมผจญภัยกับเหล่าหมาจรจัดใน มะหมา 4 ขาครับ (2550) มาร่วมกำกับและเขียนบทสร้างรอยยิ้มให้กับคนดูอีกครั้งผ่านภาพยนตร์เรื่องนี้ และได้พูดถึงความตื่นเต้นของการร่วมงานกับเหล่านักแสดงไว้ว่า
“ตอนบอกว่าผมได้อนันดามาเล่น ทุกคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าอนันดาไม่ได้รับอะไรง่ายๆ นะ เขาเหมาะสมกับบทนี้ที่สุด มีฉากหนึ่งเขาต้องไปเลกเชอร์หน้าห้อง อนันดานำข้อมูลที่ได้ไปทำการบ้านเพิ่ม เพื่อไม่ปล่อยให้ตัวเองพูดเป็นนกแก้วนกขุนทอง แต่ต้องเข้าใจในสิ่งที่กำลังแสดงจริงๆ
“ในขณะที่บทผักกาดในเรื่องนี้ต้องไม่ห่วงสวย แถมมีบทเยอะมาก ต้องฝึกเต้นรำ ขึ้นสลิงเข้าฉากแอ็กชัน ซึ่งมินเป็นคนเต็มที่กับงาน และเรียนรู้เร็วมาก อย่างในฉากบู๊มีบทต้องต่อยตีกับซอมบี้ มินก็ยอมเล่นเอง เวลาที่เขาแสดงร่วมกันก็ดูเคมีเข้ากันมาก ดูลื่นไหลไปหมด”
