โรคระบาดรุนแรงไปทั่วโลก หลายประเทศมีการระบาดในกลุ่มแรงงานต่างชาติ อีกทั้งเรื่องสภาพแวดล้อมในการดำรงชีวิตที่ย่ำแย่ของแรงงานต่างชาติต่างก็ได้รับความสนใจเช่นกัน แรงงานต่างชาติที่ทำงานเกี่ยวกับสถาบันสวัสดิการสังคมจะมีความเสี่ยงสูง เนื่องจากอาศัยอยู่ในหอพักขนาดเล็กและแออัด ขาดสุขอนามัย อีกทั้งไม่ได้อยู่ในกลุ่มเป้าหมายที่จะได้รับวัคซีน รวมถึงการได้รับทรัพยากรทางการแพทย์จากรัฐบาลของประเทศต่างๆ จึงทำให้แรงงานต่างชาติที่ทำงานในสถาบันสวัสดิการสังคมที่มีความเสี่ยงสูง มีความเสี่ยงในการติดเชื้อมากกว่าแรงงานกลุ่มอื่นๆ แต่ละประเทศเขามีมาตรการดูแลแรงงานยังไงบ้าง ติดตามด้านล่างได้เลย
ไต้หวันเรียนรู้จากประเทศอื่นๆ เพื่อส่งเสริมสิทธิมนุษยชนของแรงงานต่างชาติ /ภาพจาก The chinatimes
- ญี่ปุ่น
เมื่อเร็ว ๆ นี้ญี่ปุ่นเสนอให้ชาวต่างชาติทุกคนสามารถรับวัคซีนได้ฟรี เพียงแค่ลงทะเบียน พร้อมนัดหมายตามระเบียบของทางการ ขณะนี้ญี่ปุ่นกำลังเปิดกลุ่มเป้าหมายเข้ารับวัคซีนเป็นระยะๆ และคาดว่าจะเปิดให้ประชาชนทั่วไปในเดือนกรกฎาคม รวมทั้งชาวต่างชาติด้วย เพื่อให้ขั้นตอนการบริการวัคซีนแก่ชาวต่างชาติสะดวกและง่ายมากขึ้น ข้อมูลและเอกสารเกี่ยวกับการฉีดวัคซีน จะมีการแปลถึง 17 ภาษา
- เกาหลีใต้
เกาหลีใต้ประกาศว่า ชาวต่างชาติทั้งหมด รวมทั้งแรงงานต่างด้าวที่ถูกกฎหมายหรือผิดกฎหมาย สามารถฉีดวัคซีนได้ตั้งแต่เริ่มเปิดให้มีการฉีดวัคซีน สำหรับขั้นตอนการสมัครจะเหมือนกับของชาวเกาหลี เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้ให้คำมั่นว่า แรงงานต่างชาติสามารถฉีดวัคซีนหรือตรวจคัดกรองได้อย่างสบายใจ โดยไม่คำนึงว่าพวกเขาจะอยู่เกินกำหนดหรือไม่ และพบแรงงานผิดกฎหมายระหว่างการรักษาจะไม่ส่งกลับประเทศแน่นอน
- ฮ่องกง
เมื่อปลายเดือนเมษายน ฮ่องกงประกาศแผนการตรวจคัดกรองภาคบังคับและการฉีดวัคซีนภาคบังคับ สำหรับแรงงานต่างชาติทุกคน โดยกำหนดให้แรงงานต่างชาติกว่า 370,000 คนในเมืองได้รับการฉีดวัคซีน นอกจากนี้แรงงานต่างชาติที่ต้องการไปทำงานในฮ่องกงเมื่อสมัครวีซ่าทำงานต้องยื่นบันทึกการฉีดวัคซีนยืนยันด้วย
ต่อมาในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม ประกาศระงับแผนดำเนินการฉีดวัคซีนบังคับสำหรับแรงงานต่างชาติ แต่ยังคงดำเนินการตรวจคัดกรองทั่วไปสำหรับแรงงานต่างชาติรอบ 2 อยู่ ภาครัฐได้เรียกร้องให้แรงงานต่างชาติเข้ารับการตรวจคัดกรองด้วยตนเอง ปัจจุบัน ฮ่องกงมีวัคซีนเพียงพอสำหรับพลเมืองและแรงงานต่างชาติ ดังนั้นโดยรวมถือว่าเป็นผลดีต่อแรงงานต่างชาติมาก
หอพักแรงงานต่างชาติในสิงคโปร์ระบาดหนัก/ภาพจาก Getty Images
- สิงคโปร์
ในปี 2020 สิงคโปร์ถือเป็นประเทศที่ได้พาดหัวข่าวในสื่อต่างประเทศแทบทุกที่ อันเนื่องมาจากมีการระบาดในหอพักแรงงานต่างชาติจำนวนมาก แรงงานต่างชาติกว่า 150,000 คน จาก 300,000 คนทั่วประเทศได้รับการวินิจฉัยว่าติดโควิด คิดเป็น 90% ของผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันในประเทศ ตามรายงาน The Straits Post ระบุว่า ตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคมปีนี้ สิงคโปร์ได้เริ่มการฉีดวัคซีนให้กับแรงงานต่างชาติที่อาศัยอยู่ใน 5 หอพักที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ซึ่งเป็น 5 หอพักที่ยังไม่พบผู้ติดเชื้อ โดย ณ เดือนพฤษภาคม แรงงานต่างชาติมากกว่า 42,000 คนได้ดำเนินการฉีดวัคซีนแล้ว คิดเป็น 13-15% ของแรงงานต่างชาติในประเทศทั้งหมด รัฐบาลสิงคโปร์ยังให้คำมั่นว่าจะค่อยๆ ขยายการฉีดวัคซีนไปยังแรงงานต่างชาติในอนาคต
- มาเลเซีย
มาเลเซียยังประสบกับสถานการณ์การระบาดของกลุ่มแรงงานต่างชาติในประเทศต่อเนื่อง มาเลเซียมีประชากรที่เป็นแรงงานต่างชาติมากถึง 3 ล้านถึง 5 ล้านคน เมื่อเดือนเมษายนปีนี้มีการประกาศว่า จะเปิดให้ผู้ลี้ภัยในประเทศ แรงงานต่างชาติอย่างถูกกฎหมายและแรงงานต่างชาติผิดกฎหมาย เข้ารับฉีดวัคซีน รมว.สธ.ระบุเพิ่มเติมว่า สำหรับแรงงานที่ถูกกฎหมายให้นายจ้างรับผิดชอบในการลงทะเบียนเข้ารับการฉีดวัคซีน ส่วนแรงงานต่างด้าวที่อยู่เกินกำหนดหรือไม่มีเอกสารก็สามารถรับวัคซีนได้เช่นกัน รัฐบาลมีกำหนดภายในเดือนมิถุนายนนี้จะฉีดวัคซีนให้ครบ