สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองส่งเสริมให้ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่และทายาทใช้เบื้องหลังความเป็นพหุวัฒนธรรมของตนเองให้เกิดประโยชน์ เสริมสร้างความเชื่อมโยงระหว่างภาษาและวัฒนธรรม โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2015 สำหรับโครงการฝึกอบรมในต่างประเทศตลอดระยะเวลา 7 ปีติดต่อกันมา มีผู้ได้รับประโยชน์จำนวนมากกว่า 1,056 ราย เพื่อที่จะสามารถเข้าใจถึงผู้ที่ได้รับคัดเลือกในแต่ละปีและผลกระทบในอนาคต จึงได้จัดทำแบบสอบถาม และเชิญชวนนักเรียนแต่ละรุ่น ผู้ปกครอง คุณครู และตัวแทนนักสังคมสงเคราะห์มาร่วมพูดคุยเสวนากัน ภายหลังจากการวิเคราะห์จากกลุ่มตัวอย่างกว่า 659 ชุดทำให้ทราบว่า ผู้ปกครองและทายาทผู้ตั้งถิ่นฐานและคณาจารย์มากกว่า 80% คิดว่าการเข้าร่วมโครงการฝึกอบรมส่งผลต่อชีวิตการทำงานในอนาคต ทำให้เห็นชัดว่าโครงการนี้ประสบความสำเร็จอย่างชัดเจน
เพิ่มความมั่นใจและความเป็นตัวของตัวเอง
จากผลสำรวจทำให้ทราบว่าทายาทผู้ตั้งถิ่นฐานกว่า 96.1% ภายหลังจากการเข้าร่วมโครงการฝึกอบรมแล้ว มีความเชื่อมั่นในอัตลักษณ์ของผู้ปกครองผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่มากขึ้น โดยคุณเฉินหม่าลี้ (陳瑪莉) ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ที่มาเข่ารวมการเสวนาในครั้งนี้กล่าวว่า ลูกชาย ล่ายจึหลง (賴子瓏) เข้าใจวัฒนธรรมไทยของแม่มากขึ้นกว่าแต่ก่อน และยอมที่จะเรียนรู้ภาษาไทย เวลาเข้าร่วมกิจกรรมกับแม่ในที่สาธารณะ ก็มีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น ปฏิสัมพันธ์ในครอบครัวก็ดีขึ้นอีกด้วย
เพิ่มความสมัครใจในการเรียนภาษาบ้านเกิด
มีทายาทผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่กว่า 80% ที่บอกว่ามีความสมัครใจในการเรียนภาษาบ้านเกิดมากยิ่งขึ้น โดยผู้ปกครองก็เห็นด้วยกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ยังทำให้เห็นว่า “ความสมัครใจในการเรียนภาษาบ้านเกิด” กับ “ความสมัครใจในการกลับไปประเทศบ้านเกิดทำงาน” มีความสัมพันธ์กันอย่างชัดเจน โดยปัจจุบันรัฐบาลได้ส่งเสริมบทเรียนภาษาบ้านเกิดสำหรับผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ เพื่อเสริมสร้างความต้องการในการเรียนภาษา พร้อมทั้งสนับสนุนการเรียนรู้ในช่องทางต่าง ๆ อาทิการมีปฏิสัมพันธ์กับครอบครัว ผู้ปกครองสามารถใช้ภาษาบ้านเกิดในการพูดคุยกับลูกในชีวิตประจำวัน หรือการเรียนในโรงเรียน ในอนาคตจะเป็นประโยชน์ต่อการเดินทางกลับไปพัฒนาและทำงานที่ประเทศบ้านเกิดได้
มีส่วนช่วยต่อนโยบายมุ่งใต้ใหม่
คณาจารย์กว่า 94.1% เห็นว่าภายหลังจากที่นักเรียนเข้าร่วมโครงการนี้แล้ว กล้าที่จะ “แสดงความเป็นตัวเองในฐานะของผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่” โดยอาจารย์ไฉ่หลี่ถิง (蔡季延) คุณครูผู้เข้าร่วมในการเสวนาครั้งนี้ รู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมากที่ได้เห็นการเจริญเติบโตภายหลังจากการเข้าร่วมโครงการฝึกอบรมของนักเรียนหวางรุ่ยเหา (王瑞豪) ที่มีแม่มาจากเวียดนาม ภายหลังจากการกลับมาในรั้วโรงเรียน ก็ได้แบ่งปันเรื่องราวการไปอบรมในต่างประเทศให้แก่รุ่นน้องในโรงเรียน ความมั่นใจในตัวเองและการเรียนเห็นชัดถึงการพัฒนาที่ชัดเจน และมีความภาคภูมิใจที่ตนเองเป็นทายาทผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ จากเดิมที่มีคะแนนระดับปานกลาง ก็สามารถเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัยรัฐด้วยการคัดเลือกแบบพิเศษ คุณครูก็รู้สึกเป็นเกียรติอย่างมาก แสดงให้เห็นว่าโครงการฝึกอบรมนี้มีผลกระทบไปในทางดีต่อคณาจารย์และนักเรียน พร้อมกันนี้มีคณาจารย์กว่า 78% เห็นว่าการเข้าร่วมโครงการในครั้งนี้มีส่วนช่วยรัฐบาลในการผลักดันโครงการมุ่งใต้ใหม่
จงจิ่งคุน (鐘景琨) ผู้บัญชาการสํานักงานตรวจคนเข้าเมืองกล่าวว่า กิจกรรมในวันนี้เป็นการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมที่ดีมาก หวังว่าจะใช้การประเมินผลเชิงปริมาณจากการทำแบบสอบถามและการวิเคราะห์เชิงคุณภาพจากการพูดคุยเสวนา รวมรวมความเห็นที่มีค่าจากทุกฝ่าย และยังได้เห็นการเจริญเติบโตและการเปลี่ยนแปลงของตัวแทนผู้ได้รับคัดเลือกแต่ละรุ่น ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างคณาจารย์และนักเรียน และความทุ่มเทอย่างไม่หวังผลตอบแทนของนักสังคมสงเคราะห์ จิตวิญญาณในการร่วมมือกันของทุก ๆ คนทำให้รู้สึกประทับใจและยินดีเป็นอย่างยิ่ง สำหรับความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจะเป็นแนวทางในการพัฒนาผลประโยชน์ของกิจกรรมและการบริการสำหรับผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ต่อไป