ไวรัสสายพันธุ์เดลต้าระบาดทางใต้ของไต้หวัน อาการของสายพันธุ์นี้แตกต่างจากสายพันธุ์ก่อนๆ จากการศึกษาของอังกฤษพบว่า ผู้ที่ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์อินเดียนจะมีอาการปวดหัว น้ำมูกไหล ซึ่งไม่ค่อยเหมือนกับสายพันธุ์ก่อนๆที่มีอาการรับรสและกลิ่นผิดปกติด้วย ดังนั้นจึงทำให้ผู้ติดเชื้อหลายท่านไม่ทราบว่าตนเองติดเชื้อ และพลาดโอกาสในการรักษา รู้ตัวอีกทีอาจสายไปแล้ว
อ่านข่าวเพิ่มเติม : เมืองแรกในประเทศ! เถาหยวนสั่งปิดให้บริการ "ร้านเสริมสวย ร้านทำเล็บและร้านต่อขนตา" เริ่มตั้งแต่ 4 มิถุนายน
คนหนุ่มสาวที่ติดเชื้อสายพันธุ์เดลต้ามีอาการปวดหัวอย่างเห็นได้ชัด /ภาพจาก เดอะ ลิเบอร์ตี้ ไทมส์
แพทย์ชาวอังกฤษ ทิม สเปคเตอร์ (Tim Spector) กล่าวว่า คนหนุ่มสาวที่ติดเชื้อสายพันธุ์เดลต้ามักจะเข้าใจผิดว่าตัวเองเป็นแค่หวัดธรรมดา เนื่องจากอาการในระยะแรกมีแค่ ปวดหัว ตามด้วยเจ็บคอ น้ำมูกไหล และมีไข้ ผลการศึกษาชี้ว่าอาการของสายพันธุ์กลายพันธุ์นี้แตกต่างจากสายพันธุ์ก่อนๆ อาการที่พบบ่อยที่สุดในผู้ป่วยอายุต่ำกว่า 40 ปี คือ ปวดศีรษะ ตามมาด้วยเจ็บคอ น้ำมูกไหล ส่วนอาการทั่วไปของผู้ป่วยที่มีอายุมากกว่า 40 ปี คือ ปวดศีรษะ เจ็บคอ น้ำมูกไหล และมีไข้ ยิ่งผู้ป่วยอายุน้อยอาการปวดหัวก็จะยิ่งรุนแรง หากท่านสงสัยว่าติดเชื้อหรือไม่ เพียงจำไว้ว่า "ปวด 2 น้ำ1 "
อ่านข่าวเพิ่มเติม : โปรดระมัดระวังเมื่อออกไปข้างนอก! ถังเฟิงผลักดัน "ระบบ SMS" ใช้กับ MRT รถประจำทางและรถแท็กซี่
หากคุณได้ติดต่อกับบุคคลที่ติดเชื้อสายพันธุ์เดลต้า คุณต้องไปตรวจที่สถานีตรวจคัดกรองอย่างรวดเร็ว/ภาพจาก โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวัน
เฉินซิ่วซี (陳秀熙) ศาสตราจารย์สาธารณสุขมหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวันกล่าวว่า อาการสูญเสียการรับรสหรือกลิ่นไม่มีอยู่ในรายการของสายพันธุ์ Delta แม้ว่าอาการจะไม่ชัดเจน แต่คุณสามารถเฝ้าระวังดูอาการตัวเองได้จาก ปวด 2 น้ำ 1 คือ ปวดศีรษะ เจ็บคอ และน้ำมูกไหล ในผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 40 ปี สัดส่วนของอาการปวดศีรษะจะสูง โดยคิดเป็นประมาณ 2 ใน 3 ดังนั้นหากท่านมีอาการขอแนะนำให้เดินทางไปที่สถานีตรวจคัดกรอง เพื่อทำการตรวจคัดกรองอย่างรวดเร็ว