ไทยวางแผนทำ Travel bubble จับคู่ประเทศเชื่อมต่อการเดินทางกับประเทศที่สามารถจัดการโรคโควิด-19 ได้ดี เพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยว (ภาพจาก pixabay)
เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทยดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนถึงวันนี้ (16 มิ.ย.) ไม่พบผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 ในประเทศเป็นเวลา 22 วันแล้ว ประกอบกับรัฐบาลไทยได้ยกเลิกประกาศสถานการณ์ภาวะฉุกเฉินและผ่อนปรนมาตรการระยะที่ 4 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อกระตุ้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาของไทยได้มีแนวคิดทำ Travel bubble เพื่อเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างสองประเทศที่สามารถจัดการเรื่องโรคโควิด-19 ได้เป็นอย่างดี เท่าๆ กัน โดยจะมีการพิจารณาจากสถานการณ์การระบาดในประเทศนั้นๆ มีการผ่อนคลายการควบคุมโรคแล้วหรือไม่ มีการควบคุมการเดินทางระหว่างประเทศอยู่หรือไม่ และความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างกันเป็นอย่างไร ทั้งนี้ ผู้ที่เดินทางภายใต้ข้อตกลงดังกล่าวจะไม่ต้องถูกกักตัวเป็นเวลา 14 วัน แต่มีการกำหนดจำนวนผู้เดินทางที่อนุญาติให้เดินทางแลกเปลี่ยนกัน และมีมาตรการที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน
ทั้งนี้ประเทศเป้าหมายการทำ Travel bubble กับไทยในระยะแรก ประกอบด้วย จีน ฮ่องกง มาเก๊า ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ลาว เมียนมาร์ และตะวันออกกลาง (บางประเทศ) ทั้งนี้ในระยะแรกจะเปิดรับกลุ่มนักธุรกิจหรือกลุ่มที่ต้องการเข้ามารักษาพยาบาลก่อน
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขก็ได้มีการเตรียมพร้อมไว้แล้ว รวมถึงกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาก็เริ่มมีการดำเนินการเช็คลิสรายชื่อประเทศที่จะเป็นคู่สัญญา จัดทำข้อตกลงและแผนรับมือหากเกิดปัญหาจะหยุดยั้งอย่างไร โดยขณะนี้มีสถานทูตหลายประเทศยื่นหนังสือเข้ามา จึงต้องดูอย่างละเอียดว่า หากเป็นข้อตกลงเปิดช่องทางด่วน (Fast Lane) หรือเส้นทางการท่องเที่ยวปลอดภัย (Green Lane) จะต้องดำเนินการอย่างไร เบื้องต้นอาจกำหนดเป็นกลุ่ม นักธุรกิจ ช่างเทคนิคที่จะต้องเข้ามาดูแลเครื่องจักรต่างๆ ก่อน ยังไม่อาจถึงกลุ่มนักท่องเที่ยว
สำหรับหลักเกณฑ์การพิจารณาต้องดู ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิค-19 ในประเทศนั้นเป็นอย่างไรบ้าง มีวิธีการป้องกันผู้ติดเชื้ออย่างไรบ้าง และหลักเกณฑ์ที่เราดำเนินการเขารับได้หรือไม่ รวมถึงข้อตกลงทั้ง 2 ประเทศเป็นอย่างไร และสุดท้ายคือเรื่องของการตรวจสอบประวัติของผู้ที่เข้ามา อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เป็นเพียงขั้นตอนการเตรียมการ ต้องเสนอนายกรัฐมนตรีเพื่อตัดสินใจอีกครั้งและสิ่งสำคัญที่สุดคือ ความปลอดภัยของประชาชน
นอกจากประเทศไทยก็ยังมีประเทศอื่นๆ ที่มีการวางแผนทำ Travel bubble ยกตัวอย่างเช่น สิงค์โปร์และจีนบางเมือง อิสราเอลและกรีซ/ไซปรัส ออสเตรเลียกับนิวซีแลนด์ แอสโตเนีย ลัตเวีย และลิธัวเนีย เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยยังไม่อนุญาติให้เที่ยวบินจากต่างประเทศเดินทางเข้าประเทศ มีเพียงการบินภายในประเทศเท่านั้น
แนวทางการทำ Travel bubble เบื้องต้น
กลุ่มเป้าหมายในระยะแรก
