ไต้หวันประสบปัญหาการระบาดของโควิด-19 อีกครั้ง รวมถึงการระบาดของเชื้อมัยโคพลาสมาและเชื้อไวรัสทางเดินหายใจสังเคราะห์ (RSV) แพร่ระบาดพร้อมกัน
นพ. หวัง ลี่หมิน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการติดเชื้อในเด็กจากโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวัน กล่าวว่า การระบาดของโควิด-19 คาดว่าจะถึงจุดสูงสุดในเดือนกรกฎาคม และการระบาดของเชื้อมัยโคพลาสมาอาจยาวนานต่อไปอีก 1 ถึง 2 เดือน ศูนย์ควบคุมโรคเปิดเผยจำนวนผู้ป่วยอาการรุนแรงและเสียชีวิตเพิ่มขึ้น 623 ราย และผู้เสียชีวิต 38 ราย ซึ่งจำนวนผู้ป่วยอาการรุนแรงและเสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจากสัปดาห์ก่อน
นพ. หวง ลี่หมิน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อในเด็ก โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยไต้หวัน (ภาพจาก Liu Pin Xi, Zhong Guang)
นพ. หวัง ลี่หมิน ระบุว่า จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้น คาดว่าจะถึงจุดสูงสุดในเดือนกรกฎาคมและจะเริ่มลดลงในเดือนสิงหาคม ไม่เพียงแค่โควิด-19 เท่านั้น แต่ยังมีการระบาดของเชื้อไวรัสทางเดินหายใจสังเคราะห์ (RSV), เชื้อมัยโคพลาสมา และเชื้อไวรัสทางเดินอาหาร เชื้อมัยโคพลาสมาส่วนใหญ่ติดเชื้อในเด็กและได้ระบาดมาเป็นเวลา 4 เดือนแล้ว คิดเป็นครึ่งหนึ่งของผู้ป่วยปอดบวม แต่ยังไม่พบผู้ป่วยอาการรุนแรง เชื้อไวรัสทางเดินหายใจสังเคราะห์ (RSV) ติดเชื้อในผู้ใหญ่และเด็ก แต่ผู้สูงอายุมีความเสี่ยงต่อการเกิดอาการรุนแรงมากกว่า ปัจจุบันการระบาดเพิ่มขึ้น แต่ยังไม่พบผู้ป่วยอาการรุนแรงมากนัก
ภาพประกอบเชื้อไวรัส RSV (ภาพจาก motionelements)
เมื่อถามถึงเวลาที่การติดเชื้อจากไวรัสและแบคทีเรียหลายชนิดจะสงบลง นพ. หวัง ลี่หมิน กล่าวว่า การขาดแคลนภูมิคุ้มกันมักจะคงอยู่เป็นเวลา 2 ปี คาดว่าไต้หวันจะยังคงได้รับผลกระทบจนถึงครึ่งแรกของปี 2025 และจะกลับสู่ภาวะปกติในช่วงครึ่งหลังของปี 2025