โคโรน่าไวรัสทำลาย '' ประเทศต้นแบบด้านการป้องกันการแพร่ระบาด '' ไต้หวัน เวียดนามและสิงคโปร์ การ์ดตกพร้อมๆกัน

การแพร่ระบาดของโรคโคโรน่าไวรัสได้แพร่ระบาดมาเกือบปีครึ่งแล้ว เดินทีไต้หวัน สิงคโปร์และเวียดนามสามารถป้องกันการแพร่ระบาดได้เป็นอย่างดี ถือได้ว่าเป็นต้นแบบของโลก แต่เมื่อไม่นานมานี้ก็ได้เกิดการแพร่ระบาดอย่างหนัก วันที่ 15 พฤษภาคมไต้หวันมีผู้ติดเชื้อในท้องถิ่นเพิ่มขึ้น 180 ราย จนกระทั่งถึงวันนี้เพียงแค่ 8 วันเท่านั้น มีผู้ติดเชื้อสะสมถึง 2,652 ราย สำหรับประเทศเวียดนามเอง ในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม มีผู้ติดเชื้อในท้องถิ่น 187 ราย ซึ่งทั้งคู่ทำสถิติสูงสุดใหม่ ในส่วนของสิงคโปร์ พบผู้ป่วยในท้องถิ่น 38 ราย ในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม ทำลายสถิติยอดผู้ติดเชื้อสูงสุดใหม่ นับจากเดือนเมษายนปีที่แล้ว จากการวิเคราะห์ของสื่อต่างประเทศ สาเหตุหลักที่ทำให้การแพร่ระบาดของ "ประเทศต้นแบบ" (模範生) มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น เนื่องจากการชะล่าใจในการป้องกันการแพร่ระบาด รวมไปถึงการขาดวัคซีน

ไต้หวันในฐานะที่เป็นประเทศต้นแบบด้านการป้องกันการแพร่ระบาด ประสบวิกฤตการติดเชื้อในชุมชนเป็นครั้งแรก ไต้หวันไม่ใช่กรณีพิเศษ เมื่อไม่นานมานี้หลายประเทศที่มีสถานการณ์การแพร่ระบาดที่มั่นคง ก็เริ่มมีสถานการณ์ที่แย่ลงเช่นกัน เช่น เวียดนามซึ่งเป็นอีกหนึ่งประเทศต้นแบบในการป้องกันการแพร่ระบาด ในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา มีผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันแล้ว 187 ราย ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เกิดการระบาดของโรคจากปีที่แล้ว สิงคโปร์เองก็เช่นกัน

แม้ว่าสาเหตุของการแพร่ระบาดในแต่ละประเทศจะแตกต่างกันออกไป แต่ส่วนใหญ่แล้วมาจากการจัดงานเฉลิมฉลอง ความหย่อนยานในการป้องกันการแพร่ระบาด รวมถึงการฉีดวัคซีนที่ล้าช้า ดังนั้นเพื่อเป็นการตอบสนองต่อสถานการณ์ที่รุนแรงเช่นนี้ ทางการสิงคโปร์ประกาศงดการจัดกิจกรรมที่มีการรวมตัวกัน ในวันที่ 17 พฤษภาคมไต้หวันเองก็ได้มีการประกาศ ตั้งแต่วันที่ 19 พฤษภาคมเป็นต้นไป โรงเรียนที่ต่ำกว่าระดับอุดมศึกษาปรับให้มีการเรียนออนไลน์

สำหรับประเทศไทยเองสถานการณ์การแพร่ระบาดก็ค่อนข้างรุนแรงเช่นกัน ในวันที่ 17 พฤษภาคม มียอดผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันใหม่ 9,635 ราย และมีจำนวนผู้ติดเชื้อในวันเดียวสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มมีการระบาด ในจำนวนผู้ติดเชื้อมากกว่า 70% เป็นการติดเชื้อแบบคลัสเตอร์ในเรือนจำ และจำนวนผู้ป่วยสะสมทั้งหมดสูงถึง 111,000 ราย อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไทยยังคงมีนโยบายที่จะกลับมาให้บริการการท่องเที่ยวที่ภูเก็ต ในเดือนกรกฎาคมตามแผนที่วางไว้ และจะกลับมาให้บริการเที่ยวบินระหว่างประเทศในเดือนพฤศจิกายนนี้