ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (COVID-19) ได้แพร่กระจายไปทั่วโลก หลังจากที่ทีมวิทยาศาสตร์และรัฐบาลของประเทศต่างๆ ได้ทำการวิจัยตลอดปี 2563 วัคซีนต่างๆ ได้ออกมาอย่างต่อเนื่อง และประเทศต่างๆ ทั่วโลกยังคงส่งเสริมนโยบายวัคซีนอย่างต่อเนื่องเช่นกัน เมื่อเร็วๆ นี้ รัฐบาลไทยระบุว่าจะใช้วัคซีนผสมในครั้งแรกและครั้งที่ 2 เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันต่อไวรัสสายพันธุ์
อ่านข่าวเพิ่มเติม : โรคระบาดยังคงรุนแรง! เตียงผู้ป่วยในโรงพยาบาลของประเทศไทยอยู่ในภาวะฉุกเฉิน กระทรวงสาธารณสุขประกาศ : ผู้ป่วยที่ไม่มีอาการให้ทำการกักตัวที่บ้าน
ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์ เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข อนุทิน ชาญวีรกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันของผู้คนต่อไวรัสกลายพันธุ์ หากวัคซีนเข็มแรกเป็น Covax ของจีน เข็มที่สองจะได้รับวัคซีน AZ (AstraZeneca) ในเวลาเดียวกัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข อนุทิน ชาญวีรกูล ยังกล่าวอีกว่า หากบุคลากรทางการแพทย์ได้รับวัคซีน Covax 2 โด๊ส จะให้เข็มที่ 3 เป็นการเสริมแรง และครั้งที่ 3 อาจเป็นวัคซีน AZ
หากวัคซีนเข็มแรกคือ Covax เข็มที่สองจะได้รับวัคซีน AZ รูปภาพ / นำมาจาก Pixabay
อ่านข่าวเพิ่มเติม : ติดตามอย่างเป็นทางการ ! การผลิตวัคซีน OEM AZ ของประเทศไทย คำสั่งซื้อจากเอเชียเริ่มจัดส่งในเดือนกรกฎาคม
ณ วันที่ 14 กรกฎาคม ประเทศไทยมีผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันผล 9,317 รายในวันเดียว โดยมีผู้ป่วย 363,029 รายที่ป่วยด้วยโรคโคโรน่าไวรัส และเสียชีวิต 2,934 ราย ปัจจุบันจำนวนผู้ได้รับวัคซีนครบถ้วนในประเทศไทยเพียง 4.9% ของประชากรทั้งหมด ตามสถิติของกระทรวงสาธารณสุขของไทยในช่วงเดือนเมษายนถึงกรกฎาคม ในบรรดาเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ 670,000 คนที่ได้รับวัคซีนCovax 2โด๊ส มี 618 คนยังคงติดเชื้อไวรัส และ 1 คนเสียชีวิต รัฐบาลไทยส่งเสริมการจัดส่งวัคซีนอย่างแข็งขัน โดยคาดว่า วัคซีนไฟเซอร์ที่สหรัฐฯ บริจาคในเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม และไฟเซอร์ 20 ล้านโดสที่รัฐบาลไทยซื้อจะมาถึงไทยในเดือนตุลาคม