ดร.โรบิน นักจีนศึกษาชาวฮอลแลนด์ กับการผลักดันหุ่นกระบอกไต้หวันสู่สากล

ตามข้อมูลของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กระทรวงมหาดไทยได้เก็บข้อมูลจนถึงปลายเดือนตุลาคม 2021 มีผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ในไต้หวันทั้งหมดมากเกินกว่า 1 ล้านคนแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการมาเรียนที่ไต้หวัน มาทำงาน หรือแต่งงาน ประสบการณ์การฝ่าฟันเอาชนะอุปสรรค์ในไต้หวัน ส่งเสริมความเป็นพหุวัฒนธรรมให้แก่ไต้หวัน ทำให้นานาชาติสามารถมองเห็นไต้หวันสถานที่แห่งนี้ ก็เพราะว่าผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ที่ทำคุณประโยชน์ให้ไต้หวันสามารถกลายมาเป็นแบบอย่างที่ดีสู่สากล กลายมาเป็น แสงแห่งใหม่ของไต้หวัน

[เว็บไซต์ข่าวรอบโลกสำหรับผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่] จึงได้จัดทำหน่วย แสงแห่งใหม่ของไต้หวันขึ้น สัมภาษณ์ผู้มีความรักในไต้หวัน ที่ใช้ความสามารถตนเองในการทำให้ไต้หวันสามารถก้าวไปสู่เวทโลกและมีอิทธิพลต่อสากล

 แสงแห่งใหม่ของไต้หวัน โรบิน (Robin Ruizendaal) “ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ที่โดดเด่นในไต้หวัน”

โรบิน（Robin Ruizendaal）ผู้มาจากประเทศฮอลแลนด์ เดินทางมาอยู่ไต้หวันเป็นเวลากว่า 30 ปีแล้ว มีความทุ่มเทในการค้นคว้าศึกษาหุ่นกระบอกในไต้หวัน และนำการแสดงหุ่นกระบอกของไต้หวันไปเผยแพร่สู่กว่า 50 ประเทศทั่วโลก เผยแพร่ความรักที่มีต่อไต้หวันไปสู่สากล

โรบินมีความสนใจในโลกตะวันตกตั้งแต่ยังเด็ก เพราะว่าได้รับอิทธิพลจากคุณตาที่เคยทำงานที่ประเทศอินโดนีเซีย พอโตขึ้นก็เรียนจีนศึกษา และเคยค้นคว้าเกี่ยวกับหุ่นกระบอกที่เซี๊ยเหมินประเทศจีน โรบินค้นพบว่า เรื่องราวข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์นั้นเป็นเรื่องที่ยากจะหาข้อพิสูจน์ได้ แต่หุ่นกระบอกเป็นศิลปะการใช้ชีวิตที่เกี่ยวข้องกับประชาชนที่แท้จริง ในประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมจีนกว่าหลายพันปี หุ่นกระบอกเป็นตัวแทนของวัฒนธรรมและการศึกษาที่ถ่ายทอดออกมาจากรุ่นสู่รุ่น

ในปี 1990 โรบินได้รับเชิญจาก เทศกาลหุ่นกระบอกนานาชาติของฮอลแลนด์ ในการเป็นล่ามการแสดงของนักหุ่นกระบอกชื่อดังไต้หวันหลี่เทียนลู (李天祿) ทำให้เขาได้ค้นพบว่าการแสดงหุ่นกระบอกของไต้หวันนั้นต่างจากจีนมาก และทำให้เขาได้มีความสนใจในหุ่นกระบอกของไต้หวัน ภายหลังจากนั้นหนึ่งปี ภายใต้คำแนะนำของศาสตราจารย์ที่มหาวิทยาลัย Oxford ประเทศอังกฤษ เขาก็ขอทุนเพื่อไปทำการค้นคว้าหุ่นกระบอกที่ไต้หวัน และใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น กลายมาเป็นบุคคลผู้ชักนำหุ่นกระบอกไต้หวันไปสู่โลกสากล

เพื่อเป้าหมายที่จะเผยแพร่การแสดงหุ่นกระบอกของไต้หวัน ตอนเริ่มต้นโรบินก็ได้ใช้เงินของตัวเองกับเพื่อในการจัดตั้งโรงละครขนาดเล็ก โดยในปี 2000 เขาก็ได้รับบริจาคหุ่นกระบอกมากกว่า 5,000 ตัวที่ หลินจิงฟู่ (林經甫) นายแพทย์ชื่อดังที่เข้าสู่วงการการแพทย์และวัฒนธรรมสะสมมาตลอดชีวิต และก่อตั้ง "พิพิธภัณฑ์การแสดงหุ่นกระบอกเอเชียไท่หยวน" โดยขอให้โรบินทำงานเป็นภัณฑารักษ์เพื่อช่วยโปรโมต การแสดงหุ่นกระบอกไต้หวันและเอเชีย .

โรบินบอกว่าการแสดงหุ่นกระบอกเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในการสืบสานประวัติศาสตร์ แต่ว่าวัยรุ่นในไต้หวันตอนนี้ก็เหมือนกับชาวต่างชาติตัวเล็ก ๆ ที่ไม่สนใจกับประวัติศาสตร์วัฒนธรรมที่ถ่ายทอดมากว่าห้าพันปีนี้ เพื่อที่จะทำให้พวกเขาเหล่านั้นได้รู้จักกับวัฒนธรรมดั่งเดิมเช่นนี้ โรบินจัดนิทรรศการมามากกว่าหนึ่งร้อยครั้ง และได้เดินทางไปโรงเรียนประถมเพื่อจัดกิจกรรม DIY หุ่นกระบอกมากกว่าพันครั้ง และยังมีความร่วมมือกับสถานศึกษามากมาย เพื่อที่จะทำให้เด็ก ๆ ได้รู้จักกับศิลปะดั่งเดิมอันนี้

โรบินก็คิดอย่างจริงจังถึงวิธีการทำให้ผู้คนจำนวนมากขึ้นสามารถรับรู้ถึงวัฒนธรรมดั้งเดิมนี้ผ่านการแสดงหุ่นกระบอก โดยเขายังได้ไปเยี่ยมปรมาจารย์หุ่นกระบอกของไต้หวันทุกหนทุกแห่ง และเขียนบทชุดใหม่ร่วมกับนักออกแบบเวทีและนักดนตรีมืออาชีพ อาทิ การแสดงหุ่นกระบอกนีโอคลาสสิก "มาร์โค โปโล" ที่ผสมผสานวัฒนธรรมตะวันออกและตะวันตกและเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ นอกจากนี้ บทสนทนายังแสดงในภาษาไต้หวันและอิตาลีอีกด้วย โดยมีบรรเลงโดยอุปรากรอิตาลีและเครื่องดนตรีภาคเหนือและใต้แบบดั้งเดิม ผสมผสานความเป็นศิลปะได้อย่างลงตัว ทำให้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ไม่เพียงแต่มีการแสดงหลายร้อยครั้งในไต้หวันแล้ว การแสดงหุ่นกระบอกนีโอคลาสสิกนี้ยังเป็นที่นิยมอย่างมากในยุโรป มีการแปลไปกว่า 20 ภาษา และดำเนินการในกว่า 50 ประเทศทั่วโลก

ดร.โรบิน นักจีนศึกษาชาวฮอลแลนด์ กับการผลักดันหุ่นกระบอกไต้หวันสู่สากล

ในปี 2008 เขาได้รับเลือกให้เป็นพลเมืองกิตติมศักดิ์ของเมืองไทเป ผลสำเร็จในการเผยแพร่หุ่นกระบอกไต้หวันไปสู่สากลของโรบิน ก็ทำให้เขาได้รับรางวัลวัฒนธรรมไต้หวัน-ฝรั่งเศส ในปี 2019 และในปี 2021 ก็ยังได้รับเหรียญรางวัลสมาคมวัฒนธรรมครั้งที่ 1 ของกระทรวงวัฒนธรรมอีกด้วย

ความทุ่มเทของโรบินที่มีต่อวัฒนธรรมการแสดงหุ่นกระบอก ไม่เพียงแต่เป็นการผสมผสานวัฒนธรรมและกลวิธีในแบบสมัยใหม่มาสร้างสรรผลงานทำให้หุ่นกระบอกของไต้หวันสามารถเท่าทันสากลได้ ทำให้ทั่วโลกสามารถมองเห็นไต้หวัน