ตามรายงานข่าวของ“Workpoint Today” ปิดตำนาน 105 ปี สถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) สู่แลนด์มาร์กแห่งใหม่ ย้ายทุกขบวนรถไฟมุ่งหน้าสู่ “สถานีกลางบางซื่อ” ในเดือนพฤศจิกายน 2564 สถานีรถไฟที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานแห่งนี้จึงต้องปิดตัวลง เตรียมแปลงโฉมครั้งใหญ่กลายเป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์และพื้นที่สาธารณะในอนาคต
อ่านข่าวเพิ่มเติม: ไต้หวันดึงดูดผู้มีศักยภาพ มท.ได้ปรับปรุงกฎระเบียบกาพำนักอยู่อาศัยและการตั้งถิ่นฐานสำหรับ “ชาวต่างชาติที่ไม่มีทะเบียนบ้าน”
สถานีกลางบางซื่อ ภาพจาก/วิกิพีเดีย ถ่ายโดย Chitipat Witee
รฟท. ได้มอบหมายให้ บริษัท เอสอาร์ที เเอสเสท จำกัด บริษัทลูกจัดทำแผนพัฒนาพื้นที่หัวลำโพง ผลสรุปแนวทางการพัฒนาที่ดินย่านหัวลำโพงล่าสุด แบ่งออกเป็นทั้งหมด 5 โซน แต่ละโซนจะถูกพัฒนาแตกต่างกันออกไป โดยจะมีทั้งพื้นที่เชิงพาณิชย์ พื้นที่สาธารณะ และพื้นที่อนุรักษ์ ยกตัวอย่างพื้นที่เชิงพาณิชย์ในโซนโรงซ่อมรางและรถโดยสาร ในอนาคตจะกลายเป็นที่ตั้งของร้านค้า ร้านอาหาร และพื้นที่ทำกิจกรรม พร้อมปรับทางเดินเลียบคลองผดุงกรุงเกษม หรืออย่างในโซนอาคารสำนักงาน รฟท. วางแผนทำเป็นโครงการมิกซ์ยูส ที่จะมีทั้งร้านค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ตลาด โรงแรม และอาคารสำนักงาน นอกจากนี้ยังมีข้อเสนอให้พัฒนาเป็นอาคารแนวสูงเพื่อการใช้ประโยชน์ที่คุ้มค่า รวมเอาสถานที่อำนวยความสะดวกต่างๆ มาไว้อย่างครบครัน เปิดให้คนทุกกลุ่ม ทุกวัยเข้ามาใช้บริการได้
ขณะเดียวกันยังเน้นพื้นที่อนุรักษ์และพื้นที่สาธารณะ ผ่านการปรับปรุงอาคารและสถาปัตยกรรมเดิมคงไว้ตามแนวทางอนุรักษ์ พร้อมปรับทัศนียภาพให้สวยงาม เพิ่มพื้นที่สีเขียว พัฒนาทางจักรยานริมรางรถไฟ เป็นต้น ซึ่งการพัฒนาพื้นที่หัวลำโพงนี้ยังจะเป็นประโยชน์ต่อพื้นที่ชุมชนโดยรอบที่อยู่ใกล้เคียงด้วย
อ่านข่าวเพิ่มเติม: ทาสแมวและทาสสุนัขต้องระวัง! การซื้ออาหารสุนัขและแมวข้ามพรมแดนโดยไม่ขอกักกันอาจถูกปรับหนึ่งล้านเหรียญไต้หวัน
ตัวแทนเจ้าหน้าที่การรถไฟแห่งประเทศไทยและนายวรวุฒิ มาลารักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย ร่วมกันถ่ายภาพหมู่ ภาพจาก/กระทรวงวัฒนธรรม
อย่างไรก็ตามภาพของการพลิกฟื้น ‘หัวลำโพง’ ในครั้งนี้ ถูกวาดหวังให้เป็นสถานที่ที่ตอบโจทย์คนเมืองในหลายๆ ด้าน ทั้งการท่องเที่ยว การพักผ่อนหย่อนใจ ผู้คนสามารถใช้ประโยชน์ได้ ขณะเดียวกันก็ยังคงอัตลักษณ์พื้นที่ทางประวัติศาสตร์ในฐานะสถานีรถไฟในตำนานคู่เมืองกรุงเทพฯ สุดท้ายแล้วจะออกมาในรูปแบบไหนก็ต้องติดตามกันต่อไป